เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - คณะกรรมการสภาประชาชนจีนรับรองการปรับเพิ่มเพดานรายได้ต่อเดือนขั้นต่ำสำหรับการงดเว้นภาษีจากเดิม 2,000 หยวน เป็น 3,000 หยวน ขณะที่ภาคประชาชนต่างต้องการให้ปรับเพิ่มเพดานฯสูงขึ้นอีก
คณะกรรมการสภาประชาชน(The Standing Committee of the National People's Congress) เผยในการประชุมเป็นเวลา 3 วัน ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อวาน(27 มิ.ย.)ว่า ได้รับรองมาตรการปรับเพิ่มเพดานรายได้ต่อเดือนขั้นต่ำสำหรับการเสียภาษีจากเดิม 2,000 หยวน เป็น 3,000 หยวน หลังจากที่มีการพิจารณาและอนุมัติรอบแรกไปเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม สภานิติบัญญัติจีน ซึ่งเตรียมพิจารณาร่างการเปลี่ยนแปลงกฎหมายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดารอบที่สอง ได้ประกาศปรับเปลี่ยนอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยกำหนดให้รายได้สุทธิที่ต้องเสียภาษีฯ 1,999 หยวนแรก จะเสียภาษีเพียง 3 เปอร์เซ็นต์ ลดลงจากเดิม 5 เปอร์เซ็นต์
หลังจากที่มีการพิจารณาครั้งแรกไปเมื่อช่วงกลางเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา คณะกรรมาธิการกิจการนิติบัญญัติแห่งคณะกรรมการสภาประชานชนจีน ได้สำรวจความเห็นของประชาชนที่มีต่อร่างกฎหมายการฉบับดังกล่าว โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามทางอินเทอร์เน็ตมากกว่า 80,000 คน ผลก็คือ มีผู้ตอบมากกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ไม่เห็นด้วยกับการปรับขึ้นเพดานรายได้ต่อเดือนขั้นต่ำสำหรับการเสียภาษีเพียงแค่ 1,000 หยวน ขณะที่ผู้ตอบราว 45 เปอร์เซ็นต์ เสนอว่าให้เพิ่มเพดานรายได้ขั้นต่ำฯเป็น 5,000 หยวน และมีผู้ตอบเพียง 15 เปอร์เซ็นต์ที่เห็นด้วยกับการเพิ่มเพดานรายได้ขั้นต่ำฯเป็น 3,000 หยวน
ทั้งนี้ หากร่างกฎหมายดังกล่าวได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือนน้อยกว่า 20,000 หยวน จะเสียภาษีน้อยลง อย่างไรก็ตามผู้ที่มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 20,000 หยวน จะเสียภาษีเพิ่มขึ้น ขณะที่ผู้ที่มีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 80,000 หยวน จะต้องเสียภาษีขั้นสูงสุด 45 เปอร์เซ็นต์
ในขณะที่ภาวะเงินเฟ้อกำลังพุ่งสูง ชาวจีนผู้มีรายได้น้อยและปานกลางต่างเรียกร้องให้เพิ่มเพดานการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ขณะที่บรรดาแรงงานอพยพจำนวนมากเผยว่ารายได้เดือนละ 3,000 หยวน ไม่สามารถใช้ประทังชีวิตในเมืองได้
นายจย่า คัง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการเงินแห่งกระทรวงการคลังจีน ได้ชี้แนะว่าควรมีการลดภาระการเสียภาษีให้แก่ผู้มีรายได้ปานกลางระหว่าง 7,500 - 12,000หยวนด้วย
เซี่ย ซี่ว์เหริน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังจีนได้เผยว่า ข้อเสนออัตราการเสียภาษีเงินได้ฯฉบับใหม่นี้ จะทำให้สัดส่วนของจำนวนประชากรผู้เสียภาษีลดลงจาก 28 เปอรเซ็นต์ เหลือเพียง 12 เปอร์เซ็นต์
