เอเอฟพี - หลังจากสภาผู้แทนฯ ได้ปั๊มตรายางรับรองแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจีนฉนับที่ 12 แล้ว นายเวิน จยาเป่า นายกรัฐมนตรีจีน ก็ออกมากล่าวสรุป (14 มี.ค.) ว่า ปัญหาสังคมจีนกับตะวันออกกลางเปรียบเทียบกันไม่ได้ พร้อมชี้ว่า ปัญหาที่จีนกำลังเผชิญเป็นบททดสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้น อาทิ ปัญหาเงินเฟ้อ ฯ
การประชุมสภาผู้แทนประชาชนจีนประจำปี 2554 ซึ่งเปิดฉากในวันที่ 5 มี.ค. และสิ้นสุดวันนี้(14 มี.ค.) สภาประชาชนจีนได้ลงมติรับรองนโยบายแก้ปัญหาเศรษฐกิจและสังคมในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมระยะ 5 ปี ฉบับที่ 12 ซึ่งมุ่งเน้นการปรับเปลี่ยนแบบแผนการพัฒนาเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนและมีเสถียรภาพ ลดการพึ่งพิงการส่งออก ส่งเสริมการบริโภคภายในประเทศ และกระจายความมั่งคั่งอย่างเป็นธรรมแก่ประชาชน
นายกเวินสรุปการประชุมสภาผู้แทนประจำปี ว่า “เรา (รัฐบาลจีน) เผชิญปัญหาที่เขย่าขวัญและซับซ้อนทั้งภายในประเทศและสถานการณ์จากภายนอก”
พรรคคอมมิวนิสต์จีนกำลังจัดลำดับปัญหาที่สำคัญ อาทิ เงินเฟ้อ การคอรัปชั่น สภาพแวดล้อมเสื่อมโทรม และการฉกฉวยผลประโยชน์ของพวกนักเก็งกำไรอสังหาริมทรัพย์ ฯ
เมื่อเกิดการปฏิวัติล้มล้างรัฐบาลในแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลาง ผู้นำจีนเฝ้ามองปัญหาดังกล่าวด้วยความกังวลขณะที่นายกเวิน ลั่นว่า การเปรียบเทียบปัญหาความไม่สงบของภูมิภาคดังกล่าวกับจีนเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
“พวกเรา (ผู้นำจีน) เฝ้าดูสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแอฟริกาเหนือและตะวันออกกลางอย่างใกล้ชิด เราเชื่อว่าการเปรียบเทียบความคล้ายระหว่างจีนและประเทศเหล่านั้นไม่ถูกต้อง” เวินกล่าว
จีนตั้งเป้าหมายให้เศรษฐกิจพัฒนาอย่างสมดุลและยั่งยืน ตลอดจนเน้นการกระจายความมั่งคั่งอย่างเป็นธรรมมากขึ้น ภายใต้แผนพัฒนาเศรษฐกิจฯ ฉบับใหม่ ซึ่งกำหนดอนาคตประเทศจีนนับแต่นี้เป็นต้นไปอีก 5 ปี โดยหลักแล้วแผนฯฉบับใหม่นี้ กำหนดให้เศรษฐกิจจีนขยายตัวปีละ 7 เปอร์เซ็นต์
รัฐสภาจีนได้ลงมติเห็นชอบแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฯ 2,709 เสียง ไม่เห็นด้วย 119 เสียง แลงดออกเสียง 45 เสียง
เวินชี้ว่า เป้าหมายในแผนฯ เหล่านี้ เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องทำให้ได้ แต่การควบคุมเศรษฐกิจจีนที่มีขนาดมหึมาเป็นอันดับสองของโลกนี้ คงไม่ใช่เรื่องง่าย “จีนอาจต้องประสบปัญหาอย่างมากในการจำกัดการขยายตัวเศรษฐกิจให้อยู่ที่ 7 เปอร์เซ็นต์” เวินกล่าว
“ในอีก 5 ปีข้างหน้า และในระยะยาว จีนจะต้องปรับเปลี่ยนแบบแผนการพัฒนาเศรษฐกิจของชาติเป็นลำดับแรก”
ปัญหาเงินเฟ้อเป็นปัญหาหลักของรัฐบาลจีน ก่อนหน้านี้นายกเวินเคยออกมาลั่นว่า จีนจะต้องคุมราคาสินค้า อาหาร บ้าน และสิ่งอุปโภคบริโภคจำเป็นอื่น ๆ ซึ่งเกรงว่าปัญหาเหล่านี้อาจนำมาสู่ความไม่สงบของสังคมได้ โดยเงินเฟ้อจีนในเดือนม.ค.-ก.พ. ยังคงสูงสม่ำเสมออยู่ที่ 4.9 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี แม้ว่ารัฐบาลจะรัวสารพัดมาตรการเพื่อควบคุมเงินเฟ้อก็ตาม