เอเอฟพี - เวิน จยาเป่า นายกรัฐมนตรีจีนประกาศว่าจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลฮังการี และเพิ่มสินเชื่อฯ อีก 1,000 ล้านยูโร (ราว 1,420 ล้านดอลลาร์สหรัฐ)
การประกาศดังกล่าวมีขึ้นระหว่างการเยือนกรุงบูดาเปสต์ เมืองหลวงของประเทศฮังการี ซึ่งเป็นประเทศแรกในภารกิจการเยือนทวีปยุโรปของนายเวิน จยาเป่า นายกรัฐมนตรีจีน
หลังจากได้เข้าพบปะหารือกับนายวิคเตอร์ ออร์บัน นายกรัฐมนตรีฮังการี เมื่อวันอาทิตย์ (26 มิ.ย.) นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่า ได้เผยว่าจีนจะซื้อพันธบัตรรัฐบาลฮังการี แต่ยังได้ระบุมูลค่าการซื้อขาย ขณะที่ธนาคารเพื่อการพัฒนาของจีนจะขยายสินเชื่อให้แก่ฮังการี อีก 1,000 ล้านยูโร (ราว 43,562 ล้านบาท)
นายกรัฐมนตรีออร์บาน ได้กล่าวชื่นชมว่า ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นความช่วยเหลือครั้งประวัติการณ์จากจีน ที่มีนัยสำคัญต่อการประคับประคองสถานะการเงินของฮังการี และกล่าวเสริมว่าการบรรลุข้อตกลงในครั้งนี้ จะมีการร่วมมือกันดำเนินโครงการต่างๆ ระหว่างจีนและฮังการี
สำหรับโครงการความร่วมมือต่างๆ มีอาทิ ความให้ร่วมมือระหว่างธนาคารแห่งประเทศจีน(Bank of China) กับ Borsodchem บริษัทผลิตเคมีภัณฑ์ของฮังการี และการสร้างศูนย์จำหน่ายสินค้าในยุโรปแห่งใหม่สำหรับหวาเหว่ย บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เครือข่ายและอุปกรณ์โทรคมนาคมจีน
นอกจากนี้จีนต้องการสร้างโรงงานผลิตกรดซิตริก(กรดมะนาว) ในเมืองโซลนอค ประเทศฮังการี ขณะเดียวกันบริษัทชั่นอี้ ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จีน กำลังเตรียมสร้างศูนย์กลางการผลิตโคมไฟในฮังการี
จีนและฮังการีได้ลงนามสัญญาอื่นๆอีก อาทิ การพัฒนาการคมนาคมขนส่ง การสนับสนุนการลงทุนในด้านต่างๆ และการสร้างศูนย์วัฒนธรรมอีกหลายแห่ง
นอกจากนี้ นายกเวินยังได้กล่าวเชิญชวนเยาวชนฮังการีจำนวน 150 คน ให้เดินทางไปที่ประเทศจีน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรมระหว่างสองชาติ
สำนักข่าวซินหวารายงานว่า เมื่อวันเสาร์(25 มิ.ย.) นายกเวินได้เรียกร้องให้มีการขยายความร่วมมือด้านการค้า ระหว่างจีนกับยุโรปตอนกลางและตะวันออก เนื่องจากมูลค่าการค้าปัจจุบันยังคงอยู่ในระดับต่ำ เมื่อเทียบกับมูลค่าการค้าโดยรวมระหว่างจีนและยุโรป รวมทั้งเรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายส่งเสริมการเข้าถึงตลาด และการลงทุนทวิภาคีให้มากขึ้น
นายทามัส เฟลเลอกี รัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาแห่งชาติฮังการี ได้กล่าวก่อนการมาเยือนฮังการีของนายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่า ว่า “ฮังการีหวังที่จะเป็นศูนย์กลางการค้าขาย และการขนส่งสินค้าในยุโรปให้แก่จีน”
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา จีนได้ลุยลงทุนในประเทศและภูมิภาคต่างๆ อาทิ แอฟริกา ออสเตรเลีย ละตินอเมริกา และสหรัฐฯ นอกจากนี้จีนยังให้ความสนใจในการเข้าไปลงทุนในทวีปยุโรป ซึ่งกำลังประสบปัญหาวิกฤตหนี้สาธารณะ
เมื่อปีที่ผ่านมา(2553) นายเวิน จยาเป่า นายกรัฐมนตรีจีนได้เดินสายเยือนชาติยุโรปเป็นครั้งแรก โดยได้เดินทางไปยังประเทศต่างๆ ได้แก่ กรีก อิตาลี และตุรกี พร้อมประกาศว่าจะลงทุนในกรีกและโปแลนด์
ทั้งนี้ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจการเยือนประเทศฮังการี นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่าจะเดินทางไปเยือนประเทศอังกฤษ และเยอรมณีตามลำดับ