เอเจนซี-ดาราดังนักรณรงค์ ริชาร์ด เกียร์ เรียกร้องให้ผู้นำสหรัฐฯเคลื่อนไหวมากขึ้น เพื่อสนับสนุนสิทธิชนชาติทิเบต
เกียร์ ออกโรงเคลื่อนไหวสิทธิทิเบตอีกครั้งในที่ประชุมคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศแห่งสภาผู้แทนราษฎรในวอชิงตันเมื่อวันพฤหัสฯ(2 มิ.ย.) เขากล่าวว่าประธานาธิบดีบารัก โอบามาได้กำหนดท่าทีใหม่ในการรับมือกับจีน แต่ก็ควรไปไกลกว่านี้
“ทุกครั้งที่เราพูดจาออมชอมกับพวกเขา พวกเขาก็เป็นฝ่ายได้เปรียบ ขณะที่จีนมีแต่กดดัน แข็งกร้าว ดื้อรั้น” ดาราหนุ่มใหญ่เจ้าเสน่ห์แห่งฮอลลิวู้ด ผู้หันมานับถือศาสนาพุทธ และรณรงค์สิทธิทิเบตมานานกล่าว
เกียร์บอกว่าภาษาทิเบตกำลังถูกคุกคาม และรัฐบาลโอบามาควรช่วยกอบกู้โดยผนวกให้เป็นส่วนของแผนการขยายจำนวนนักศึกษาอเมริกันในประเทศจีน เพิ่มเป็น 100,000 แสนคน โดยนอกจากศึกษาภาษาจีนกลางแล้ว ก็ส่งเสริมการเรียนภาษาชนชาติส่วนน้อยในจีน อาทิ ภาษาทิเบต
นอกจากนี้สหรัฐฯควรปฏิเสธการเปิดสถานกงสุลจีนตามเมืองต่างๆ ทั้งในแอตแลนตา บอสตัน และฮอนโนลูลู จนกว่ารัฐบาลจีนจะอนุญาตการเปิดสถานกงสุลในลาซา เมืองเอกของเขตปกครองตัวเองชนชาติทิเบต
ในที่ประชุมเดียวกันนี้ ผู้นำคนอื่นๆก็เรียกร้องให้จีนยุติ “การกดขี่”ในดินแดนทิเบต และกลับมาเจรจากับทะไล ลามะ ผู้นำจิตวิญญาณทิเบต ซึ่งกลายเป็นผู้นำพลัดถิ่นในอินเดียตั้งปี 2502
ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศดูแลด้านสิทธิมนุษย์ชน นาย Daniel Baer ชี้ว่าสถานการณ์สิทธิมนุษย์ชนในทิเบตแย่ลง โดยเมื่อเร็วๆนี้มีการจำกัดการศึกษาภาษาทิเบต ควบคุมวัตรปฏิบัติด้านศาสนาทิเบตอย่างเข้มงวดมากขึ้น และยังมีการจับกุมชาวทิเบตที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเมือง
ทั้งเกียร์และผู้นำคนอื่นๆยังได้ตำหนิการวางตัวของโอบามาต่อทะไล ลามะ โดยโอบามาไม่ได้พบปะกับทะไล ลามะในตอนที่ทะไล ลามะเยือนวอชิงตันปี 2552 เนื่องจากกลัวจะกระทบกระเทือนการเยือนประเทศจีนครั้งแรกของเขา
โอบามาได้ต้อนรับทะไล ลามะในเดือนก.พ.ปี 2553 แม้จีนคัดค้าน แต่ก็ไม่ได้จัดการพบปะที่ห้องทำงานรูปไข่ของประธานาธิบดีที่ทำเนียบขาว และไม่ให้สื่อเข้ามาทำข่าว
ด้านจีนโต้ตอบว่าได้สร้างความเจริญแก่เขตปกครองชนชาติทิเบต และกล่าวหาทะไล ลามะ เป็นพวก “ลัทธิแบ่งแยกดินแดน” ขณะที่นักสังเกตการณ์หลายคนเชื่อว่าตอนนี้จีนเพียงรอคอยวันสิ้นพระชมน์ของทะไล ลามะ ซึ่งขณะนี้มีอายุ 75 ปีแล้ว.