เอเอฟพี - ผู้นำเกาหลีเหนือ นายคิม จองอิล สิ้นสุดการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นเวลานับสัปดาห์ ขณะนี้ (27 พ.ค.) เดินทางกลับประเทศเกาหลีเหนือแล้ว สำนักข่าวยอนฮัพรายงานว่า การเยือนครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อให้จีนรับประกันความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจแก่โสมแดง
หลังจากการเดือนทางเยือนจีนไปเมืองโน้นเมืองนี้ระยะทางถึง 6,000 กม. วานนี้รถไฟกันกระสุนอย่างดีที่มีคิมจองอิลนั่งอยู่ ก็แล่นข้ามชายแดนเข้าสู่เมืองซินุยจู ของเกาหลีเหนือเมื่อเวลา 6.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น สำนักข่าวยอนฮัพของเกาหลีใต้รายงาน
การเยือนฯ ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ในช่วงเพียงข้ามปี ที่คิมตัดสินใจเยือนจีนในฐานะพันธมิตรและผู้ให้ความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจ โดยในครั้งนี้คิมได้เดือนทางเยือนภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกของจีน รวมทั้งกรุงปักกิ่งด้วย ซึ่งคิมได้พบปะกับหู จิ่นเทาประธานาธิบดีของจีนตลอดจนเจ้าหน้าที่ระดับสูงหลายคน
ก่อนหน้านั้นจีนได้กดดันให้เกาหลีเหนือยอมรับการเจรจา 6 ฝ่าย เรื่องการปลดอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อลดความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี รวมทั้งจีนยังต้องการให้เกาหลีเหนือเปิดประเทศอย่างจีน ที่มีรัฐเป็นผู้ดำเนินการทางเศรษฐกิจ
อย่างไรก็ตาม ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า การเดินทางของคิมนั้นมีเป้าหมายอื่นด้วยหรือไม่ เนื่องจากสำนักข่าวที่เปียงยางและปักกิ่งอธิบายการสนทนาระหว่างคิม กับหู เมื่อวันพุธ (25 พ.ค.) ไม่เหมือนกัน
สำนักข่าวซินหวาของจีนระบุว่า คิมเรียกร้องให้มีการฟื้นฟูการเจรจาลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างเร่งด่วน และแสดงความหวังที่จะกระชับสัมพันธ์กับเกาหลีใต้ด้วย ขณะที่สำนักข่าวของเกาหลีเหนือ เคซีเอ็นเอ ชี้เพียงว่า สองผู้นำเห็นพ้องต้องกันว่า การลดอาวุธนิวเคลียร์ทั้งคาบสมุทรเกาหลีเป็นผลประโยชน์ของภูมิภาค พร้อมเสริมว่า จะมีการฟื้นฟูการเจรจา 6 ฝ่ายด้วย แต่ไม่ได้กล่าวถึงรายละเอียดอื่น ๆ”
เกาหลีเหนือย้ำว่า พร้อมจะเข้าร่วมการเจรจาที่ชะงักมา 2 ปี แต่ปัญหาอยู่ที่สัมพันธ์บาดหมางกับเกาหลีใต้นั้นยังคงซับซ้อน เกาหลีใต้ระบุว่า เกาหลีเหนือจมเรือรบเกาหลีใต้ในเดือนมี.ค. 2553 ทำให้มีทหารเสียชีวิต 46 นาย ขณะที่เกาหลีเหนือปฏิเสธข้อกล่าวหา แต่ต่อมาเดือนพ.ย. เกาหลีเหนือก็ยิงกระสุนปืนใหญ่ใส่เกาะยอนพยองของเกาหลีใต้ คร่าไปอีก 4 ชีวิต ทั้งนี้เกาหลีใต้ชี้ว่า เกาหลีเหนือต้องแสดงความรับผิดชอบกับ 2 เหตุการณ์นี้ จึงจะขยับความสัมพันธ์ต่อไปได้
นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่าของจีน กล่าวว่า คิมได้รับเชิญให้เรียนรู้การผงาดของเศรษฐกิจมังกร ด้วยความหวังที่ว่าคิมจะนำองค์ความรู้ไปฟื้นฟูเศรษฐกิจของโสมแดง แต่นักวิเคราะห์เชื่อว่า ระบอบการปกครองของคิมนั้น สิ่งที่เขาหวาดกลัวที่สุดก็คือการสูญเสียอำนาจควบคุมทางการเมือง หากการปฏิรูปทำให้อำนาจผู้นำสั่นคลอน นั่นเป็นสิ่งที่ผู้นำเกาหลีเหนือไม่ต้องการ
นอกจากนั้น เคซีเอ็นเอ ชี้ว่า ประธานาธิบดีหู จิ่นเทา สนับสนุนระบอบสังคมนิยมของเกาหลีเหนือ โดยให้ดำเนินไปบนถนนแห่งการพัฒนาอย่างเหมาะสม กับสภาพความเป็นจริงของเกาหลีเหนือเอง