เอเอฟพี - ทางการจีนเผย (24 พ.ค.) บัญชีเดินสะพัดเกินดุลของจีนลดลงร้อยละ 18 ในไตรมาสแรกของปี 2554 เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
หน่วยงานของรัฐบาลกลางฝ่ายดูแลอัตราแลกเปลี่ยน (SAFE) ระบุ บัญชีเดินสะพัดเกินดุล เป็นมาตรการทางการค้าของประเทศต่าง ๆ โดยในรอบ 3 เดือนแรกของปีบัญชีเดินสะพัดเกินดุลของจีน มีมูลค่าลดลงมาอยู่ที่ 29,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ น้อยกว่าไตรมาส 4 ของปี 2553 ซึ่งอยู่ที่ 102,100 ล้านดอลลาร์
บัญชีเดินสะพัดเป็นผลรวมสุทธิของดุลการค้า และดุลบริการ บริจาค และเงินโอน ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในดุลการชำระเงินของประเทศ ดังนั้นแต่ละประเทศจึงพยายามไม่ให้ขาดดุลบัญชีเดินสะพัด เพื่อรักษาฐานะทางการเงินของประเทศเอาไว้
เงินไหลเข้าสุทธิจากการลงทุนทางตรงต่างประเทศหรือเอฟดีไอ ที่เข้ามายังจีนในไตรมาสแรกของปีนี้มีมูลค่า 42,600 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 4 ของปี 2553 ซึ่งอยู่ที่ 39,100 ล้านดอลลาร์
ในปี 2553 บัญชีเดินสะพัดเกินดุลจีนเพิ่มขึ้นร้อยละ 17 ต่อปี มีมูลค่า 305,400 ล้านดอลลาร์ เนื่องจากสหรัฐฯ และสหภาพยุโรปที่ประสบปัญหาวิกฤติทางการเงินนั้นต้องการฟื้นฟูรับซื้อสินค้าส่งออกจากจีนเพิ่ม
ขณะที่ความต้องการสินค้าจีนขยายตัวมากขึ้น ธนาคารกลางของจีนจึงต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อควบคุมค่าเงินหยวน และสกัดต้นตอสภาพคล่องที่ล้นเกิน ซึ่งจะนำมาสู่ปัญหาเงินเฟ้อได้