เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์/ ซินหวา - เจ้าหน้าที่ทางการจีนได้ประกาศว่า โครงการฟื้นฟูการก่อสร้างใหม่ในพื้นที่โศกนาฏกรรมแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่เสฉวนและอีกสองมณฑลใกล้เคียงนั้น “สำเร็จอย่างงดงาม” ในช่วงใกล้ครบรอบรำลึกเหตุการณ์ฯ ปีที่ 3 ขณะที่ยังคงมีกระแสไม่พอใจคุกรุ่นอยู่เนื่องจากคำถามที่ไม่มีคำตอบจากฝ่ายรัฐ
นายกรัฐมนตรีเวิน จยาเป่าเป็นผู้กล่าวยืนยันในความสำเร็จด้านการฟื้นฟูฯเป็นครั้งแรก ในการเยือนมณฑลซื่อชวน (เสฉวน) เมื่อวันจันทร์ (9 พ.ค.) ซึ่งนับเป็นการเยือนพื้นที่แผ่นดินไหวครั้งที่ 10 นับแต่เกิดเหตุสะเทือนใจแผ่นดินไหวขนาด 8 ริกเตอร์ เมื่อวันที่ 12 พ.ค. 2551 ที่คร่าชีวิตไปกว่า 87,000 คน
ด้วยจำนวนเม็ดเงินอัดฉีดมหาศาลกว่า 1,020,000 ล้านหยวน (ประมาณ 4,740,840 ล้านบาท) นายกเวินฯ ชี้ว่า พื้นที่ธรณีพิบัติในซื่อชวน กานซู่ และส่านซีได้เปลี่ยนแปลงและฟื้นฟู โดยในขณะนี้สัมฤทธิ์ผลแล้ว
เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นไม่ยอมให้เสียเวลา เริ่มแถลงเกี่ยวกับความสำเร็จนี้ว่า การก่อสร้างใหม่บรรลุเกือบร้อยละ 95 แล้ว
“จำนวนบ้านกว่า 2.1 ล้านหน่วย สร้างเสร็จแล้ว และโรงเรียน โรงพยาบาลใหม่หลายพันแห่งก็สร้างพร้อมใช้การได้แล้ว” มู่ หง รองผู้อำนวยการคณะกรรมาธิการพัฒนาและปฏิรูปประเทศ เผยคร่าว ๆ วานนี้ (10 พ.ค.)
นักวิเคราะห์ชี้ว่า ความสำเร็จที่เห็นนี้ ทั้งหมดเน้นไปที่เรื่องการก่อสร้างสาธารณูปโภคพื้นฐาน รัฐบาลปักกิ่งสามารถระดมสรรพกำลังมนุษย์และทรัพยากรทั้งหลาย กอปรกับการตัดสินใจอนุมัติกระบวนการฟื้นฟูการก่อสร้างในพื้นที่ฯ นั้น บ่งบอกถึงพลังอำนาจของประเทศจีนอย่างชัดเจน
แต่ทางการจีนก็ประกาศว่าได้รับชัยชนะในการพยายามฟื้นฟูทั้งหมดได้อย่างไม่เต็มปาก ศาสตราจารย์หู ซิงโต้ว นักวิเคราะห์ด้านการเมืองจากปักกิ่งชี้ว่า “พวกเราได้เห็นข้อดีของระบบการเมืองแบบรวมศูนย์อำนาจ และอำนาจอันไร้ของเขตของรัฐบาลอีกครั้งหนึ่งแล้ว แต่ก็แน่นอนว่าคงใช้เวลาอีกนานที่จะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นขึ้นมาใหม่ได้ ทั้งการช่วยฟื้นฟูคุณภาพชีวิตประชาชน คำปลอบโยนที่ฉุดรั้งหัวใจที่แตกสลายให้ฟื้นขึ้นมาใหม่ และท้ายที่สุดการได้เรียนรู้บทเรียนที่ขมขื่นจากโศกนาฏกรรมในครั้งนี้”
เว่ย หง ผู้ว่าการมณฑลซื่อชวนยังได้ยอมรับว่า การพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นยังคงเป็นเรื่องท้าทายสำหรับรัฐบาล แม้ว่าการก่อสร้างจะลุล่วงแล้วก็ตาม เขาสัญญาว่าจะจัดสรรงบประมาณกว่า 3 พันล้านหยวนในอีก 5 ปีข้างหน้าเพื่อกำจัดความยากจนใน 1,200 หมู่บ้าน
อย่างไรก็ตาม ผู้ปกครองหลายคนที่บุตรหลายเสียชีวิตในเหตุธรณีพิบัติฯ ในเหตุโรงเรียนพังทลายลงมาเมื่อสามปีที่แล้ว ก็กล่าวว่า พวกเขายังคงไม่ได้รับการเหลียวแลให้ความเป็นธรรม แม้ว่าเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจะลงโทษอย่างหนักกับคนที่กล้าส่งเสียงสร้างความเดือดร้อนในช่วงใกล้ครบรอบเหตุการณ์ฯ 3ปี แต่ทว่าผู้ปกครองฯ เหล่านี้ก็ยังคงส่งเสียงท้าทายไม่หยุด ว่า “การก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานทำให้อาคารเรียนถล่มทับเด็กเสียชีวิต”
“เป็นเรื่องจริงที่พวกเราได้ย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านใหม่แล้ว แต่ฉันก็ยังไม่ยอมแพ้ในเรื่องที่รัฐบาลไม่ยอมรับว่าอุปกรณ์ด้อยคุณภาพเป็นเหตุให้ลูกชายของฉันเสียชีวิต” ผู้ปกครองของนักเรียนผู้เสียชีวิตจากโรงเรียนมัธยมเป่ยชวนกล่าว
รัฐบาลกลางและรัฐบาลท้องถิ่นปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่า รายงานยอดเสียชีวิตของนักเรียนน้อยกว่าความจริง และข้อกล่าวหาเรื่องการก่อสร้างด้อยคุณภาพเป็นเหตุให้โรงเรียนถล่ม
ผู้ปกครองหวังว่าจะมีการสร้างอนุสรณ์รำลึกในเขตโรงเรียนเป่ยชวน เพื่อฝังเถ้ากระดูกของนักเรียนที่เสียชีวิตราว 1,600 คนในเหตุแผ่นดินไหวฯ แต่รัฐบาลท้องถิ่นไม่อนุญาต
พ่อนักเรียนผู้เสียชีวิตคนหนึ่งเล่าว่า “พวกเรารอมา 3 ปี แต่ก็ดูเหมือนว่า พวกเราต้องรอต่อไป”
หลิว อี้ว์ถิง ผู้สูญเสียลูกชายไปในเหตุฯครั้งนั้น ใช้ชีวิตอยู่ด้วยความสิ้นหวัง “ความหวังทุกวันนี้น้อยเหลือเกิน ผู้ปกครองน้อยคนนักที่จะกล้าพูด เพราะเจ้าหน้าที่มาข่มขู่พวกเราบ่อยมาก และบรรดานักเคลื่อนไหวที่มาช่วยพวกเราก็เพิ่งถูกจับขังไปเมื่อไม่กี่สัปดาห์”
นักเคลื่อนไหวอย่างน้อย 3 คน ได้แก่ ถัง จั้วเหริน หวง ฉี และหลิว เสียนปิน ถูกจำคุกในข้อหาบ่อนทำลายชาติ พวกเขาเรียกตึกที่ถล่มในเหตุแผ่นดินไหวเหล่านั้นว่า “ตึกเต้าหู้” นอกจากนั้น ศิลปินนักวิจารณ์อย่างไอ้ เว่ยเว่ยยังได้เคยเดินทางมาดูอาคารก่อสร้างที่ถล่ม และในเดือนมี.ค.เขาก็ถูกจับไปด้วย
แม้ว่าเจ้าหน้าที่จะปัดคำถามเกี่ยวกับการก่อสร้างที่ด้อยคุณภาพ แต่นายกเวินก็ชี้ว่า มีความบกพร่องจริง “เราได้เห็นความสูญเสียมหาศาลในโรงเรียนและโรงพยาบาลที่พังทลาย” ซินหวาอ้างคำกล่าวของนายกเวิน “เราได้เรียนรู้บทเรียนเกี่ยวกับกระบวนการก่อสร้างว่าต้องตั้งมาตรการการก่อสร้างโรงเรียนและโรงพยาบาลไว้ให้สูง เพื่อความปลอดภัยเป็นหลัก”