เอเอฟพี - “อู่ ซู่ชิง” สาวโรงงานทางภาคเหนือของจีนนั่งหลังขดหลังแข็งอยู่เหนือเครื่องจักร ที่กำลังถักเสื้อขนแพะแคชเมียร์สีเขียวอย่างว่องไว … ทุกวินาที ที่เครื่องถักไหมพรมเคลื่อนไหว และเสื้อเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเรื่อย ๆ
มันคือเงินทอง ที่หลั่งไหลเข้ามาสู่เจ้าของกิจการ และตัวของอู่เอง
เพราะเสื้อขนแพะสีสันสดใสเหล่านี้จุดหมายปลายทางอยู่ที่ห้างสรรพสินค้า และราคามันแพงเอาเรื่องทีเดียว
อู่กับเพื่อน ๆ ในโรงงานอีกหลายสิบคนผลิตเสื้อขนสัตว์ หรือที่เรียกกันว่าเสื้อสเวตเตอร์ปีหนึ่งได้มากกว่า 1 แสนตัว ซึ่งเมื่อเอาไปขายในกรุงปักกิ่ง หรือนครเซี่ยงไฮ้แล้ว ราคาตัวหนึ่งสูงถึงหลายร้อยดอลลาร์
“ แรก ๆ ฉันก็เหนื่อยหรอกค่ะ แต่เดี๋ยวนี้ชินเสียแล้ว” เธอเล่าถึงสภาพการทำงานวันละ 11 ชั่วโมง ท่ามกลางเสียงแผดดังของเครื่องถักไหมพรมตรงหน้า ภายในโรงงานมอซอในเมืองโอดอส ( เอ้อเอ่อตัวซือ) ในเขตปกครองตนเองมองโกเลียใน
ปัจจุบัน จีนเป็นชาติผู้ผลิตเสื้อขนแพะแคชเมียร์รายใหญ่สุดในโลก โดยป้อนสู่ตลาดโลกมากถึงร้อยละ 75-80 ซึ่งประมาณการณ์ว่า มีมูลค่าราว 5-6 พันล้านหยวนต่อปี
ในบรรดาเสื้อขนสัตว์ประเภทต่าง ๆ นั้น เป็นที่รู้จักกันดีว่า เสื้อขนแพะพันธุ์แคชเมียร์มีราคาสูงมาก จนได้รับฉายาว่า “ทองคำเนื้อนุ่ม” หรือ “เส้นใยเพชร” และในขณะที่ยอดส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ และยุโรปหดตัวลงจากวิกฤตการเงินโลก แต่ รสนิยมใช้สินค้าหรูหรา ที่กำลังระบาดในเมืองจีนเอง ได้ทำให้เสื้อขนสัตว์หรูเริ่ดนี้ กำลังเป็นที่ต้องของตลาดในประเทศ
กล่าวได้ว่า สภาพอากาศในช่วงฤดูหนาว ซึ่งทั้งหนาวและแห้งแล้งบนพื้นที่ราบสูงในภาคเหนือและภาคตะวันตกของจีนเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับการผลิตขนสัตว์ ซึ่งนุ่มหนาราวปุยเมฆนี้ เพราะแพะแคชเมียร์จะและเล็มหญ้า หากินกระจัดกระจายไปทั่วภูมิภาค และสร้างขนยาวให้ดกหนา รักษาร่างกายให้อบอุ่น
จากนั้น ขนของมันจะถูกนำมาปั่นเป็นเส้นด้ายหนา แล้วเอามาถักเป็นเสื้อสเวตเตอร์ ผ้าพันคอ และผ้าคลุมไหล่ แบรนด์หรูอย่างแอร์เมส และอีริก บงปา นำไปจำหน่ายที่ปารีส นิวยอร์ก และซิดนีย์
ขนแพะแคชเมียร์ดิบราคายังแพงขึ้นเกือบ 2 เท่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เมื่อแพะแคชเมียร์ลดจำนวนลง เพราะสภาพอากาศหนาวรุนแรง และคำสั่งของทางการจีน ที่ห้ามเจ้าของฝูงแพะนำสัตว์เลี้ยงมาหากินกลางทุ่งหญ้าในเขตมองโกเลียใน เพราะจะทำให้หน้าดินถูกกัดเซาะ
ราคาขนแพะแคชเมียร์ดิบ ที่แพงขึ้นทำให้แม่เฒ่า เมิ่ง โหลวหนี่ว์ คนเลี้ยงแพะวัย 77 ปี ยิ้มแก้มปริ เพราะครอบครัวของนาง ซึ่งอาศัยในหมู่บ้านริมทะเลทรายโกบี้ อันกว้างใหญ่ เลี้ยงแพะแคชเมียร์ตั้งหลายร้อยตัว ปีหนึ่ง ๆ มีรายได้ถึงหนึ่งล้านหยวน ยกระดับชีวิตให้ดีขึ้นอย่างมาก
ด้านหญิงเจ้าของร้านขายส่งเสื้อขนแพะแคชเมียร์ในเมืองโอดอสเองบอกว่า เธอชอบขนสัตว์ชนิดนี้ เพราะมันสวมใส่แล้วสบายดี โดยเสื้อขนแพะแคชเมียร์ร้อยเปอร์เซ็นต์ขายในเมืองแห่งนี้ได้สูงถึง 2,000 หยวน
ทว่าสำหรับโรงงาน ที่ผลิตเสื้อออกขายนั้น ยิ้มไม่ค่อยออก เพราะนอกจากราคาขนแพะดิบจะแพงขึ้นแล้ว ธุรกิจยังแข่งขันกันมากขึ้น โรงงานผลิตเสื้อขนสัตว์แคชเมียร์ผุดขึ้นทุกหนทุกแห่งบนแดนมังกร เฉพาะในเมืองโอดอส มีโรงงานมากกว่า 10 แห่ง
“อู่ ซู่ชิง” สาวโรงงานผู้อาจไม่มีปัญหาซื้อเสื้อหรูราคาแพงระยับ ที่ผลิตมากับมือนี้ แต่เธอก็เข้าใจดีว่า ทำไมผู้คนจึงยอมจ่ายเงิน ซึ่งอาจมากเท่ากับเงินเดือนทั้งเดือนของเธอ หรือมากกว่าด้วยซ้ำ เพื่อได้เป็นเจ้าของมัน
“เมื่อสวมใส่แล้ว จะรู้สบาย และช่างดีจริง ๆ ค่ะ” เธอการันตี