เอเอฟพี - หวัง ตาน อดีตผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์นองเลือดที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เมื่อปี 2532 แถลงเมื่อวันจันทร์ (18 เม.ย.) ว่า เขาได้รับเงินบริจาคจากอดีตผู้นำไต้หวันเพื่อมาเป็นกองทุนสนับสนุนการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยบนแผ่นดินใหญ่
หวัง ตาน เป็นประธานกลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยในจีน เขาเป็นอดีตผู้นำนักศึกษาในเหตุการณ์ประท้วงที่เทียนอันเหมิน ขณะนี้จบปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด และเป็นอาจารย์พิเศษของมหาวิทยาลัยแนชั่นแนล ชิงหวาในเขตซิงจู๋ ของไต้หวัน นอกจากเขาจะค้นคว้าวิจัยประเด็นทางการเมืองแล้ว ก็ยังสนับสนุนการเรียกร้องประชาธิปไตยและเสรีภาพบนแผ่นดินจีน เขาเดินทางไปทั่วโลกเพื่อเรียกเสียงสนับสนุนจากชาวจีนโพ้นทะเลด้วย
หวัง ตาน ซึ่งขณะนี้ตั้งหลักปักฐานอยู่ที่ไต้หวัน กล่าวว่า เขาได้รับเงินจำนวนหนึ่งจากอดีตประธานาธิบดีเฉิน สุยเปี่ยน ของไต้หวัน (ผู้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2543-2551) แต่หวังไม่ได้คิดว่า เงินจำนวนนี้มาจากกระเป๋าของท่านอดีตประธานาธิบดีเอง
หวัง เขียนแถลงการณ์ซึ่งลงตีพิมพ์อยู่ในแอปเปิลเดลี ในกรุงไทเป ระบุว่า “เป็นที่แน่ชัดว่าเงินจำนวนนี้มาจากรัฐบาลของสาธารณรัฐจีน (ชื่อทางการของไต้หวัน) มากกว่าจะมาจากนายเฉิน สุยเปี่ยน”
“หรือก็อาจจะกล่าวได้ว่า เฉิน เป็นตัวแทนของรัฐบาลสาธารณรัฐจีนในการผลักดันเงินสนับสนุนจำนวนนี้ มาเพื่อการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในจีน” หวังกล่าว
เฉิน สุยเปี่ยน ต้องคดีติดสินบนและคอรัปชั่น อยู่ในระหว่างการจองจำ และไต่สวนในข้อหายักยอกเงินงบประมาณแผ่นดินในระหว่างที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ขณะที่เฉินยืนยันว่า เงินจำนวนดังกล่าวนำไปใช้ใน “ภารกิจลับทางการทูต” เพื่อประโยชน์ของเกาะไต้หวันโดยแท้
สำหรับหวัง ผู้ที่เคยถูกรัฐบาลจีนเนรเทศไปอยู่สหรัฐฯ นั้น กล่าวว่า กลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยของเขายินดีต้อนรับการบริจาคที่ถูกกฎหมายทุกบาททุกสตางค์ “พวกเราหวังว่ารัฐบาลสาธารณรัฐจีน(ไต้หวัน) จะเข้าใจถึงความสำคัญของกลุ่มเคลื่อนไหวเพื่อประชาธิปไตยฯ ได้แจ่มชัด”
หวังให้ปากคำยืนยันกับศาลสูงไต้หวันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เขาได้รับเงินบริจาคจากเฉิน สุยเปี่ยน
แต่หวังก็ได้ปฏิเสธรายงานที่ออกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า เขาได้รับเงินถึง 4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเขาประกาศแก้ข่าวทางเฟสบุ๊คว่า ตัวเลขดังกล่าวไม่ถูกต้อง
เฉิน สุยเปี่ยน ถูกตัดสินให้จำคุกเป็นเวลา 17 ปีครึ่ง ในข้อหากินสินบาทคาดสินบน 2 คดีด้วยกัน ขณะที่ภริยาของเฉิน ที่พิการอยู่บนรถเข็น ก็ถูกตัดสินต้องโทษในข้อหาคอร์รัปชั่น ที่ต่อมาได้ลดโทษจำคุกตลอดชีวิต เหลือจำคุกเป็นเวลา 14 ปี แต่ด้วยปัญหาสุขภาพ จึงยังไม่แน่ชัดว่าเธอจะชดใช้ความผิดในคุกได้หรือไม่
เฉิน กล่าวว่า การตัดสินดังกล่าวเป็นการแก้แค้นทางการเมือง โดยกลุ่มผู้นำไต้หวันปัจจุบันที่มีแนวนโยบายอ่อนน้อมต่อจีน สืบเนื่องจากการที่เขาพยายามผลักดันอิสรภาพแก่ไต้หวัน
จีนและไต้หวันแยกกันปกครองในปี 2492 หลังสิ้นสุดสงครามกลางเมือง แต่จีนยังคงมองว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของจีนที่รอวันรวบรวมกลับสู่ความเป็น “จีนเดียว” ซึ่งอาจใช้กำลังถ้าจำเป็น