มะกันเตรียมปิด "วิทยุเสียงอเมริกา" ภาคภาษาจีนกลาง

เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - สหรัฐฯเตรียมยุติการกระจายเสียงวิทยุคลื่นสั้น หันมาใช้อินเทอร์เน็ตแพร่กระจายข่าวสารบนแดนมังกร มั่นใจประสิทธิภาพของอินเทอร์เน็ตในการเข้าถึงชาวจีน แม้รัฐบาลจีนสร้างระบบไฟร์วอลล์ ป้องกันความปลอดภัยของระบบเครือข่ายอย่างรัดกุมก็ตาม

ตามข้อเสนอจัดทำงบประมาณสำหรับปีหน้าของสหรัฐฯ วิทยุเสียงอเมริกา (Voice of America) ซึ่งเป็นหน่วยงานกระจายเสียงวิทยุและโทรทัศน์ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะยุติการกระจายเสียงวิทยุและโทรทัศน์ภาคภาษาจีนกลาง ซึ่งได้ให้บริการมายาวนาน และยุติบริการภาคภาษากวางตุ้งทั้งหมด แผนการดังกล่าวจะลดตำแหน่งงานได้ 45 ตำแหน่ง และประหยัดงบประมาณได้ 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม มาตรการรัดเข็มขัดดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่จีนกำลังส่งเสริมการกระจายเสียงวิทยุและโทรทัศน์ภาครัฐไปทั่วโลก ทำให้ส.ส. ดาน่า โรห์ราเบเชอร์ จากพรรครีพับลิกันประจำรัฐแคลิฟอร์เนียเรียกให้มีการจัดการไต่สวนเรื่องนี้ในรัฐสภา โดยนายโรห์ราเบเชอร์ระบุว่า การประหยัดงบประมาณดังกล่าวได้ไม่คุ้มเสีย เพราะถึงแม้จะช่วยให้การจัดทำงบประมาณของรัฐบาลเกิดความสมดุล แต่ก็ทำให้การดำเนินความพยายามต่าง ๆ ของสหรัฐฯ ในประเทศจีน ซึ่งเป็นเผด็จการ และเป็นคู่พิพาทกับสหรัฐฯ ในหลายปัญหาต้องอ่อนแอลง

นอกจากนั้น เขายังตั้งข้อสงสัยที่สหรัฐฯ จะหันไปใช้สื่ออินเทอร์เน็ตเป็นกระบอกเสียงในจีน ทั้งที่จีนมีการสร้างระบบไฟร์วอลล์อย่างแน่นหนา เพื่อปิดกั้นการสืบค้นข้อมูล ซึ่งเป็นประเด็นอ่อนไหวทางการเมือง

อย่างไรก็ตาม นายเอส เอ็นเดอร์ส วิมบุช คณะผู้บริหารด้านการกระจายเสียงวิทยุและโทรทัศน์ (Broadcasting Board of Governors หรือ BBG) ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ตอบชี้แจงในการไต่สวนเมื่อวันพุธ (6 เม.ย.) ว่า เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกำลังหาวิธีหลบเลี่ยงระบบไฟร์วอลล์นี้ โดยเขาเชื่อมั่นว่า แม้อินเทอร์เน็ตอาจถูกกลั่นกรอง แต่เป็นสื่อ ที่บทบาทกำลังขยายวงกว้าง ในขณะที่วิทยุคลื่นสั้นอาจถูกปิดกั้นได้อย่างสิ้นเชิง และกำลังลดบทบาทความสำคัญลง

ทั้งนี้ วิทยุเสียงอเมริกาเริ่มให้บริการเมื่อปี 2485 และมีบทบาทอย่างมากในช่วงสงครามเย็น อย่างไรก็ตาม ในปีหน้าสหรัฐฯ จะยังคงจัดสรรงบประมาณให้แก่การกระจายเสียงวิทยุและอินเทอร์เน็ตภาคภาษาจีนกลางและกวางตุ้งผ่านสถานีวิทยุเอเชียเสรี (Radio Free Asia) ของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ซึ่งก่อตั้งขึ้น ภายหลังเหตุการณ์จตุรัสเทียนอันเหมิน โดยมุ่งเสนอข่าวสารของประเทศในทวีปเอเชียเป็นหลัก

นายวิมบุชระบุว่า ชาวจีนลดการรับฟังข่าวสารทางวิทยุลงอย่างรวดเร็ว โดยร้อยละ 24 ของผู้ใหญ่ชาวจีนฟังข่าวสารทางวิทยุในปี 2549 และเหลือเพียงร้อยละ 8 ในปี 2552

จากการสำรวจเมื่อปีที่แล้ว มีผู้ใหญ่เพียงร้อยละ 0.1 เท่านั้นในจีน ที่ฟังวิทยุเสียงอเมริกาภาคภาษาจีนกลาง ขณะที่ร้อยละ 0.4 ฟังวิทยุคลื่นสั้นจากสถานีต่างชาติอื่น ๆ เช่นบีบีซี , เรดิโอ ฟรานซ์ อินเตอร์นาซิองนาล (Radio France Internationale) และดอยช์เวลล์ (Deutsche Welle)

อย่างไรก็ตาม นายโรเบิร์ต เรลลี อดีตผู้อำนวยการวิทยุเสียงอเมริกากล่าวเตือนในการไต่สวนว่า ภารกิจของวิทยุเสียงอเมริกาแตกต่างจากวิทยุเอเชียเสรี หรือวิทยุและโทรทัศน์เชิงพาณิชย์อื่น ๆ ตรงที่วิทยุเสียงอเมริกามีภารกิจในการอธิบายเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับประเทศสหรัฐฯ ซึ่งเป็นสุญญากาศ ที่สื่อของรัฐเท่านั้นยินดีเติมเต็ม พร้อมกับตั้งคำถามด้วยว่า สหรัฐฯ ไม่จำเป็นต้องอธิบายตนเองให้โลกได้เข้าใจอีกต่อไปแล้วหรือ