xs
xsm
sm
md
lg

Feature : “หลินปิง” ลูกหมีสีขาวดำกับอนาคต “สีเทา”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หลินปิง ลูกหมีแพนด้ายักษ์ตัวแรกที่เกิดในเมืองไทย
เอเอฟพี - หนูน้อยในอ้อมแขนมารดา ชี้ไปยังลานต้นไผ่สีเขียวสด พลางตะโกนลั่นด้วยความตื่นเต้นว่า “หลินปิง!”

สัตว์ตัวน้อยที่อวดโฉมให้เห็น คือ “ดาราดัง” ของเมืองไทย ที่มีแฟนคลับนับล้าน มีแม้กระทั่งช่องโทรทัศน์เป็นของตัวเอง ซึ่งทำให้เกิดกระแส “คลั่งแพนด้า” ไปทั่วทั้งประเทศ

หลินปิง ลูกแพนด้าตัวแรกของเมืองไทย กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนก่อนมันที่จะเกิดด้วยซ้ำ เนื่องจากความพยายามที่ล้มเหลวหลายต่อหลายครั้งของสวนสัตว์เชียงใหม่ ที่ต้องการผสมเทียมและจับคู่ให้พ่อแม่ของมัน

หลินปิง มีช่อง “แพนด้า แชนแนล” คอยถ่ายทอดสดวิถีชีวิตตลอด 24 ชั่วโมง และในการแข่งขันตั้งชื่อลูกแพนด้าตัวนี้เมื่อปี 2009 ก็มีผู้สนใจส่งชื่อเข้าประกวดถึง 22 ล้านชื่อ

“หลินปิง” ซึ่งแปลว่า ป่าแห่งน้ำแข็ง ในภาษาจีนกลาง เป็นส่วนผสมที่ลงตัวระหว่างชื่อ “หลินฮุ่ย” (ป่าที่งดงาม) กับ แม่น้ำปิง ซึ่งไหลผ่านจังหวัดเชียงใหม่

ความโด่งดังของหลินปิง ทำให้ลูกแพนด้าตัวนี้ติดอันดับสัตว์ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดในโลก เช่นเดียวกับ “นัต” (Knut) หมีขั้วโลกที่สวนสัตว์เยอรมนี และ “พอล” หมึกยักษ์จอมพยากรณ์ ที่เคยสร้างความฮือฮาให้แก่แฟนบอลทั่วโลก ด้วยการทายผลฟุตบอล เวิลด์ คัพ แม่นราวกับตาเห็น ก่อนจะหมดอายุขัยไปเมื่อปีที่แล้ว

เพื่อนของหลินปิงในสวนสัตว์เชียงใหม่ อาจจะไม่ปลื้มมันเท่าใดนัก เพราะความคลั่งไคล้ลูกแพนด้า ทำให้พวกมันบางตัวถูกจับมาทาสีขาว-ดำด้วย ไม่ว่าจะเป็น ช้าง หรือแม้แต่ จระเข้

อย่างไรก็ตาม ตำนานแห่งความสุขของหลินปิง อาจถึงจุดจบในอีกไม่ช้า เมื่อรัฐบาลจีนซึ่งให้ยืม “หลินฮุ่ย” และ “ช่วงช่วง” เป็นเวลา 10 ปี จะรับลูกแพนด้าที่มีอายุครบ 2 ปีกลับไปถิ่นเดิมในเดือนพฤษภาคมนี้

สวนสัตว์เชียงใหม่ หวังว่า จะสามารถเจรจาให้หลินปิงอยู่ต่อได้ แต่ดูเหมือนทางการจีนจะยังไม่ประกาศคำตัดสินจนกว่าจะถึงวันสิ้นสุดสัญญา

“หากจีนปฏิเสธ เราก็ต้องพยายามต่อไป ประการแรกเราคงต้องขอเหตุผล จากนั้นก็ค่อยๆแก้ไขสถานการณ์... เพราะคนไทยรักหลินปิงมาก” ประเสริฐศักดิ์ บุญตระกูลพูนทวี หัวหน้าโครงการวิจัยและจัดแสดงแพนด้าแห่งประเทศไทย เผย
แม้จะมีขนสีขาว-ดำตัดกันชัดเจน แต่อนาคตของหลินปิงยังเป็นสีเทา ตราบใดที่รัฐบาลจีนยังไม่มีคำตัดสินว่าจะให้ลูกหมีตัวนี้อยู่ในเมืองไทยต่อหรือไม่
สวนสัตว์เชียงใหม่ของบประมาณ 28.5 ล้านบาท จากรัฐบาล เพื่อสร้างโดมปรับอากาศให้เป็นสถานที่ออกกำลังกายสำหรับหลินปิง ส่วนแผนระยะยาวจะมีการผสมเทียมลูกแพนด้าเพิ่มเติม และตั้งศูนย์วิจัยแพนด้าขึ้นในไทย

“หลินปิงเป็นลูกแพนด้าตัวแรกที่เกิดในประเทศไทย ไม่ว่ามันจะทำอะไรก็เป็นที่สนใจของประชาชน เรารู้สึกเหมือนมันเป็นลูกของเราเอง เพราะเห็นอยู่ทุกวันว่ามันเติบโตอย่างไร มีการพัฒนาอย่างไร เล่นอย่างไร” ประเสริฐศักดิ์ กล่าว

แพนด้ายักษ์เป็นหนึ่งในบรรดาสัตว์ที่เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์มากที่สุดในโลก และมีความเฉื่อยชาทางเพศหากอยู่ในการดูแลของมนุษย์ ปัจจุบันคาดว่าจีนมีแพนด้ายักษ์ในธรรมชาติประมาณ 1,600 ตัว

เมื่อปี 2006 ช่วงช่วง ซึ่งมีน้ำหนักมากเกินกว่าจะผสมพันธุ์เองได้ ถูกจับเข้าโปรแกรมลดความอ้วนด้วยการให้อาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ และแม้ในที่สุดเจ้าหน้าที่จะสามารถโน้มน้าวให้มันผสมพันธุ์กับ หลินฮุ่ย จนเกิดมีวิดีโอคลิป “หนังโป๊แพนด้า” แพร่กระจายไปทั่วอินเทอร์เน็ต แต่ก็ยังไม่เป็นผล

เจ้าหน้าที่สวนสัตว์ต้องใช้ความพยายามผสมเทียมถึง 2 ครั้ง จึงได้ หลินปิง มาเป็นขวัญใจมหาชน

อนุวงศ์ วงศ์วิเชียร หัวหน้าผู้ดูแลแพนด้าประจำสวนสัตว์เชียงใหม่ กล่าวว่า “หลินปิง เป็นดาราดังตั้งแต่เกิด มันทำให้พวกเรามีความสุขมาก”

“มันเป็นหมีที่ขี้เล่นและดื้อเป็นบางครั้ง นิสัยของมันเหมือนตัวผู้มากกว่า ไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่”

แฟนๆ ของหลินปิงคงจะยังมีความสุขกับการจ้องมองชีวิตลูกหมีน้อยผ่านจอโทรทัศน์ต่อไป จนกว่ารัฐบาลจีนจะให้คำตอบเกี่ยวกับอนาคตของมัน

อย่างไรก็ตาม แฟนคลับหลินปิงบางคน พบว่า ความคลั่งไคล้ในตัวลูกหมีขนปุยของพวกเขา กลายเป็นสิ่งน่าเย้ยหยัน หรือแม้แต่น่ารำคาญสำหรับคนในบ้าน

“สามีของฉันบ่นเสมอว่า เอาแต่ดูหมีแพนด้ามันนอนหรือกินใบไผ่อยู่นั่นแหละ เขาคอยค่อนขอดฉันอยู่ตลอดเวลา” อุษา ลิ้มประเสริฐ เล่า

“แพนด้าอีกแล้วเหรอ? เธอนี่คลั่งแพนด้าจริงๆ... บางทีเขาก็รำคาญฉันค่ะ แต่ไม่เป็นไร เพราะเราดูทีวีคนละเครื่องอยู่แล้ว”

กำลังโหลดความคิดเห็น