เอเยนซี - การประชุมจี 20 เปิดฉากขึ้นในเมืองหนานจิง ของจีน เมื่อวันพฤหัส (31 มี.ค.) โดยมีรัฐมนตรีกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติของประเทศสมาชิกเข้าร่วมการประชุม โดยในขณะนี้ประเทศฝรั่งเศสเป็นประธานกลุ่มจี 20
การประชุมกลุ่มรัฐมนตรีว่าการคลังและนายธนาคารกลุ่มจี 20 เปิดฉากขึ้นในเมืองหนานจิง ประเทศจีน เมื่อวันพฤหัส (31 มี.ค.) เพื่อถกเถียงปัญหาระบบการเงินโลกเป็นเวลา 1 วัน โดยจะมุ่งประเด็นไปที่กระแสไหลเวียนทุนโลก
ประธานธิบดี นิโคลัส ซาโกซี แห่งฝรั่งเศสซึ่งกำลังนั่งวาระประธานกลุ่มประเทศจี 20 และรองนายกรัฐมนตรีจีน นาย หวัง ฉีซาน จะร่วมกับเปิดการประชุมฯ ซึ่งจัดขึ้นหนึ่งวัน ที่นครหนานจิง โดยมีขุนคลังใหญ่ และนายธนาคารคนสำคัญเข้าร่วมประชุมฯ ได้แก่ รัฐมนตรีว่าการคลังแห่งสหรัฐอเมริกา นาย ทิโมธี ไกธ์เนอร์ หัวหน้ากองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือไอเอ็มเอฟ นาย โดมินิก สเตรา-คาห์น และเลขาธิการองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา หรือ โออีซีดี นาย Jose Angel Gurria
นอกจากนี้ยังมีผู้เชี่ยวชาญชื่อดังเข้าร่วมการถกเถียง ได้แก่ นักเศรษฐศาสตร์รางวัลโนเบล นาย โรเบิร์ต มันเดลล์ อาจารย์มหาวิทยาลัยคอร์แนลล์ และอดีตหัวหน้าสำนักงานงานด้านจีนของไอเอ็มเอฟ นายEswar Prasad
สำหรับเป้าหมายการประชุมฯใหญ่ของขุนคลังและธนาคารธนาคารโลกครั้งนี้คือ การปฏิรูประบบการเงิน เพื่อเร่งการฟื้นตัววิกฤตการเงิน ที่มีปัญหาหนี้สาธารณะของเขตสกุลเงินเดียวยูโรโซนเป็นปัญหาใหญ่ อีกทั้งยังมีอุปสรรค์จากภัยพิบัติธรรมชาติจากหายนะแผ่นดินไหวและคลื่นสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่น โดยการประชุมฯ ซึ่งเป็นการประชุมปิด จะมุ่งถกเถียงกระแสไหลเวียนของเงินลงทุน ที่จีนชี้ว่ากระตุ้นภาวะเงินเฟ้อและดันค่าเงินของกลุ่มประเทศเศรษฐกจเกิดใหม่รวมถึงประเทศจีน
เจ้าภาพคือประเทศจีนได้ปฏิเสธการถกเถียงเรื่องการปรับเปลี่ยนอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินซึ่งเป็นประเด็นวิพากษ์วิจารณ์คาราคาซัง โดยกลุ่มชาติตะวันตกยังคงโจมตีค่าเงินหยวนต่ำค่ากว่าความเป็นจริงอย่างมากและสร้างความได้เปรียบอย่างไม่เป็นธรรมแก่ภาคส่งออกของจีน
อย่างไรก็ตาม ที่ปรึกษาที่ใกล้ชิดกับซาร์โกซีคาดว่าคงจะไม่มีการการตัดสินที่สำคัญจากการประชุมฯครั้งนี้
ก่อนหน้านี้ 1 วัน (30 มี.ค.) ประธานาธิบดีหู จิ่นเทาของจีน ได้ต้อนรับประธานาธิบดีซาร์โกซี โดยหูได้แสดงความไม่เห็นด้วยกับมติของสหประชาชาติที่สั่งให้โจมตีกัดดาฟี ผู้นำลิเบียด้วยจรวด โดยหูชี้ว่า มติยูเอ็นทำให้ประชาชนพลเมืองได้รับความเดือดร้อนและทุกข์ทนสาหัส
หู ต้องการบอกกับซาร์โกซีว่า “เป้าหมายของสหประชาชาติคือ ยุติความรุนแรงและปกป้องพลเรือน หากปฏิบัติการทางทหารนำมาซึ่งความหายนะ ประชาชนผู้บริสุทธิ์ต้องทนทุกข์แล้วละก็ ถือว่าเป็นวิกฤติด้านมนุษยธรรมที่ใหญ่หลวง จีนไม่เห็นด้วยกับการใช้กำลังทหารเข้าแทรกแซงกิจการของชาติอื่นอย่างเด็ดขาด”
หู ย้ำว่า “การเจรจาและสันติวิธีเท่านั้น ที่จะยุติปัญหาในลิเบียได้” พร้อมกับย้ำว่า จีนสนับสนุนให้ยุติไฟสงครามและปกป้องชีวิตพลเรือน พร้อมทั้งฟื้นฟูเสถียรภาพในลิเบียให้เร็วที่สุด
ซาร์โกซี เผยว่า “เป็นที่แน่นอนอยู่แล้วว่า เราต้องเดินหน้าปรับระบบแลกเปลี่ยนเงินตราให้ยืดหยุ่นขึ้น ซึ่งจะช่วยให้สามารถบรรเทาวิกฤติการเงินได้ แต่ระบบที่จะปฏิรูปนี้ก็ต้องมีกฎข้อบังคับ ความพร้อมใจ และมีการเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดเพื่อให้เกิดเสถียรภาพ”
อย่างไรก็ตาม ตะวันตกต้องการเห็นเงินหยวนเป็นส่วนหนึ่งของระบบสิทธิพิเศษเพื่อถอนเงินสำรองระหว่างประเทศ หรือ (SDR) ของไอเอ็มเอฟ เพื่อให้จีนเปิดกว้างระบบเงินตราหรือเลิกควบคุมค่าเงินหยวนของตนนั่นเอง
ไกธ์เนอร์เพิ่มเติมว่า ปัญหาที่ไปไม่ถึง “ความยืดหยุ่น” ที่ตั้งเป้าไว้นั้น ก็คือ “นโยบายการควบคุมอัตราแลกเปลี่ยน” ซึ่งถือเป็นปัญหาหลักในระบบการเงินโลกในปัจจุบัน
ไกธ์เนอร์ชี้ชัดว่า การที่จีนไม่ปล่อยให้อัตราแลกเปลี่ยนเงินหยวนเป็นอิสระ จะส่งผลให้เกิดความตึงเครียด และเกิดภาวะที่เรียกว่า “อสมมาตร” ในระบบแลกเปลี่ยนเงินตราโลก และย่อมส่งผลให้ประเทศจีนเกิดปัญหาเงินเฟ้อตามมาอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง
ประธานาธิบดีซาร์โกซี เรียกร้องให้กลุ่มจี 20 ยอมรับการเข้าร่วมระบบสิทธิพิเศษเพื่อถอนเงินสำรองระหว่างประเทศ หรือ (SDR) ของไอเอ็มเอฟ ซึ่งขณะนี้มีเพียงเงินสกุลดอลลาร์ ยูโร เยน และปอนด์เท่านั้น ที่เข้าร่วม
อย่างไรก็ตาม รองนายกรัฐมนตรี หวัง ฉีซันของจีน ก็ออกมาให้คำมั่นด้วยว่า “จีนจะทำงานกับสังคมโลก เพื่อให้เกิดการจัดระเบียบทางเศรษฐกิจให้เป็นธรรม และสมประโยชน์ด้วยกันทุกฝ่าย”