สื่อจีนเผย 5 สถานที่ท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวที่บรรดานักท่องเที่ยวต่างยกนิ้วการันตีว่าคุ้มและควรค่าแก่การหาเวลามาเยี่ยมยล อีกทั้งยังเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ยากจะลืมเลือน (ภาพเอเยนซี)
เซียงเก๋อหลี่ลา(แชงการีลา) : ภูเขาหิมะแห่งจินตนาการ
เมื่อถึงคราเหมันตฤดูมาเยี่ยมเยือน ณ ภูเขาหิมะแชงการีลา จากเดิมที่มีเพียงยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนตัดกับทุ่งหญ้าเขียวขจี ก็กลับกลายเป็นภูเขาที่มีหิมะสีขาวโพลนรังสรรค์ไปทั่วทุกพื้นที่ ดุจดั่งผลงานศิลปะชิ้นเอกจากสรวงสวรรค์ ที่สะบัดหมึกจากปลายพู่กันลงมาเป็นก้อนหิมะขาว แปรเปลี่ยนสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นโลกแห่งจินตนาการ ปุยเมฆขาวอ่อนนุ่ม พร้อมสัมผัสแห่งความสดชื่นจากไอเย็นของหิมะ ทิวเขาขาวเกลี้ยงเรียงยาวไกล เกล็ดหิมะเกาะไสวอยู่บนปลายหญ้า ชวนเคลิบเคลิ้มสุขสราญในความงามแห่งธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์
ภูเขาหิมะเซียงเก๋อหลี่ลา(แชงการีลา) อยู่ทางตะวันตกของมณฑลอวิ๋นหนาน(ยูนนาน) มีกระเช้ายาว 4,157 เมตร ให้ใช้บริการชมวิวทั่วภูเขา โดยหากนั่งกระเช้าไปจะพบจุดชมวิวแห่งแรกคือ ทุ่งหญ้งย่าลาชิงปัว ซึ่งเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์คุณภาพดีเยี่ยม มีตัวจามรีอยู่มากมาย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทุ่งหญ้าแห่งนี้ เป็นทะเลสาบแห่งสีสันอันงดงาม สภาพแวดล้อมโดยรอบได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี รักษาไว้ซึ่งทิวทัศน์แห่งความสงบและน่าค้นหา และหากไปถึงยอดเขาแห่งนี้ ในระดับความสูง 4,449 เมตร จะพบกับทัศนียภาพอันงดงามตระการตาของพื้นที่ต่างๆที่ชโลมด้วยหิมะขาวบริสุทธิ์ยาวไปไกลสุดฟ้า นอกจากนี้ ยังมีจุดชมวิวอีกแห่งคือ หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน ที่มีทิวทัศน์งามดั่งภาพวาดแห่งจินตนาการเช่นกัน
จิ่วไจ้โกว : ดินแดนแห่งเทพนิยาย
ดินแดนแห่งเทพนิยายในตำนานแห่งนี้ เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้จะผลัดเปลี่ยนเป็นสีแดงส้ม เสมือนมวลบุปผชาติได้แต่งแต้มทะเลสาบแห่งฤดูหนาว ความสวยงามแปลกตาของจิ่วไจ้โกวในช่วงเวลานี้ เกิดขึ้นจากองค์ประกอบแห่งธรรมชาติที่สอดประสานกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบหลากสีสันอันงดงาม ภูเขาหิมะที่มีสีเหลือง ขาว เขียว ผสมผสานกัน กอปรกับปุยหิมะบริสุทธิ์เย็นสดชื่น ผาน้ำแข็งสุดแสนวิจิตร เกล็ดน้ำแข็งในสถานที่แห่งนี้เป็นสีฟ้าสวยสดใส และนอกจากมหัศจรรย์แห่งความสวยงามในช่วงฤดูหนาวแล้ว ทะเลสาบหลากสีสันแห่งนี้ แม้ไม่ได้กลายเป็นน้ำแข็ง และแม้ไม่ได้สะท้อนเงาสีสันจากขุนเขา แต่กลับสะท้อนสีสันของความงดงามจากธรรมชาติแห่งก้นทะเลสาบขึ้นมา เป็นสีต่างๆที่เกือบครบทุกสีของธรรมชาติที่มีอยู่บนโลกนี้ น้ำทะเลสาบของที่นี่ใสบริสุทธิ์ดุจน้ำแร่แห่งสรวงสวรรค์ เมื่อลมพัดโบกไปเพียงระลอกหนึ่ง สีสันความงามก็ดูเสมือนจะพริ้วไหวเปลี่ยนไปตามสายลมในบัดดล เฉกเช่นภาพวาดสีน้ำมันแสนสวย และเมื่อหิมะยิ่งโปรยกระหน่ำลงมา ยิ่งดูละม้ายคล้ายปุยสีขาวของต้นหลิวแห่งฤดูใบไม้ผลิ เริงระบำอยู่กลางสายลมอย่างสนุกสนาน และปลิวไสวไปสะกิดภูเขา กับสายน้ำ พร้อมทั้งสัมผัสใบหน้าของผู้มาเยี่ยมชมอย่างแผ่วเบาอ่อนละมุน
จิ่วไจ้โกว ที่ซึ่งบทกวีต่างพรรณนาอุปมาไว้ว่าเป็นแดนสวรรค์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเทือกเขาหมินซาน ห่างจากเมืองเฉิงตูไปทางเหนือ 330 กิโลเมตร เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติทางตอนเหนือของมณฑล(ซื่อชวน)เสฉวน มีชื่อเสียงจากน้ำตกหลายระดับชั้นและทะเลสาบที่มีสีสันงดงาม และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2535
ฮาเอ่อร์ปิน : เหมันต์หรรษา
เมืองแห่งหิมะงามน้ำแข็งสวยของมณฑลเฮยหลงเจียงที่มีฤดูหนาวอันยาวนาน ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งใต้ของแม่น้ำซงฮวา เป็นสถานที่ที่ได้รับสมญานามว่า“มอสโกแห่งตะวันออก” ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศอันแสนตื่นตากับเสน่ห์แห่งแสงสีของเทศกาลหิมะและน้ำแข็งของเมืองแห่งนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงต้นปี อีกทั้งสนุกสนานเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆมากมาย อาทิ สกีหิมะ, แคร่เลื่อน,สโนว์โมบิล, รถม้าลาก, เล่นสเก็ตบนทะเลสาบน้ำแข็ง ฯลฯ สำหรับสถานที่ที่มีชื่อเสียง คือ สกีรีสอร์ทย่าปู้ลี่ แห่งเมืองซั่งจื้อ มณฑลเฮยหลงเจียง ซึ่งมีพื้นที่เล่นสกีถึง 20 ตารางกิโลเมตร นับเป็นรีสอร์ทสกีที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน และสามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,000 เมตร ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของป่าเขาลำเนาไพรที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวในเบื้องล่าง นอกจากนี้ ยังมีโบสถ์เซนต์โซเฟีย (St.Sophia Church) ซึ่งออกแบบและสร้างโดยสถาปนิกชาวรัสเซีย เมื่อก่อนเคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญต่างๆ ของชาวรัสเซีย แต่ถูกทำลายตอนปฏิวัติวัฒนธรรม และได้มีการสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดยพยายามรักษารูปแบบเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด ในปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นศูนย์ศิลปะและสถาปัตยกรรมแสดงภาพถ่ายขาวดำเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมืองฮาร์บิน
ภูเขาฉางไป๋ซาน : ภูเขาหิมะลือชื่อ น้ำพุร้อนลือชา
คราเหมันตฤดูปกคลุมทั่วเทือกเขาฉางไป๋ซาน แสงแดดสาดส่องลงมากระทบกับหิมะขาว ดูระยิบระยับดุจดวงดาวบนผืนดิน ขณะที่ ไออุ่นจากบ่อน้ำพุร้อนได้สร้างความสดชื่นท่ามกลางความหนาวเย็นได้อย่างน่าอัศจรรย์
ภูเขาฉางไป๋ซาน แห่งมณฑลจี๋หลิน ได้รับการจัดอันดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 5A ของจีน มีอาณาบริเวณกว่า 2,000 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมประเทศจีนและเกาหลีเหนือ เดิมเคยเป็นภูเขาไฟ แต่ดับมอดลงในยุคสมัยเฉียนหลงฮ่องเต้ แห่งราชวงศ์ชิง ด้วยความสูงใหญ่ของเทือกเขาฉางไป๋ซานแห่งนี้ สภาพภูมิประเทศ พืชพันธุ์ และวิวทิวทัศน์จึงมีความแตกต่างหลากหลาย อีกทั้งมีสมุนไพร ไม้ดอก ไม้ประดับ และสัตว์ป่าที่หายากนานาพันธุ์ ขณะที่ ทิศเหนือใต้ออกตกก็มีทิวทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกัน ทั้งยังเป็นเขตสงวนที่องค์การสหประชาชาติ ประกาศให้เป็น "มรดกโลก" สำหรับจุดสูงสุดของเทือกเขานี้มีชื่อว่า “ไป๋โถวซาน หรือ ภูเขาหัวขาว” เนื่องจากตอนบนของเทือกเขานี้มีหิมะปกคลุมตลอด
นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบเทียนฉือ หรือเรียกอีกชื่อว่า “ทะเลสาบสวรรค์”เป็นแอ่งขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงถึง 16 ยอด ครอบคลุมพื้นที่กว่า 9.8 ตารางกิโลเมตร และอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,155 เมตร มีระดับน้ำลึกถึง 373 เมตร ทะเลสาบเทียนฉือนับเป็นทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่สูงใหญ่และลึกที่สุดในโลก และยังเป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำ 3 สายสำคัญในแถบอีสานจีน ได้แก่ ถูเหมินเจียง ยาลู่เจียง(ที่กั้นระหว่างจีนและเกาหลีเหนือ) และ ซงฮวาเจียง ความพิเศษอีกประการหนึ่งของทะเลสาบนี้คือ น้ำในทะเลสาบแห่งนี้ไม่เคยแห้งเลยตลอดทั้งปี ประกอบกับมีจุดขึ้นลงและทิวทัศน์ที่แตกต่างกันในแต่ละฤดู
ภูเขาเอ๋อเหมยซาน : ขุนเขาแห่งมนต์ขลัง
ภูเขาเอ๋อเหมยซาน หรือที่เรียกว่า เขาง๊อไบ๊ ถือเป็น 1 ใน 4 ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนาและทางลัทธิเต๋าของจีน (ประกอบด้วยอู่ไถซาน จิ่วหัวซาน เอ๋อเหมยซานหรือง้อไบ๊ และผู่ถัวซาน) มีทิวทัศน์ที่สวยงามโดดเด่น และแปลกตาแตกต่างกันไป ประดุจดั่งมี 4 ฤดูอยู่ในภูเขาแห่งเดียว
เมื่อเยื้องย่างเข้าสู่ในช่วงต้นฤดูหนาว หรือ เดือนพฤศจิกายน หมู่แมกไม้สีเขียวเข้ม บนเอ๋อเหมยซาน หรือ เขาง๊อไบ๊ จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสว่างสดใส และกลายมาเป็นสีแดงระเรื่อ ทะเลเมฆบนเขาสูงแห่งนี้ ดูเพลินตาผ่อนคลายสบายใจ และยังมีน้ำพุร้อนอุดมด้วยแร่ธาตุชวนหลงใหลที่มีไอคละคลุ้งฟุ้งไปดุจหมอกละมุนแห่งความฝัน ให้สัมผัสแห่งความอบอุ่น ขณะที่ เสน่ห์แห่งธรรมชาติบนขุนเขาแห่งนี้ก็สามารถสะกิดความเงียบสงบในจิตใจ ให้ปล่อยวางเรื่องราวต่างๆและบังเกิดเป็นปิติสุขระหว่างที่อยู่ ณ สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้
ภูเขาง๊อไบ๊แห่งนี้ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของตำบลเอ๋อเหมย มณฑล(ซื่อชวน)เสฉวน มีลักษณะของภูที่เหมือนวงคิ้วของสาวงาม มียอดสูงที่สุดจากระดับน้ำทะเล ถึง 3,099 เมตร และบนภูเขามีอารามต่างๆรวม 151 แห่ง ส่วนใหญ่ทรุดโทรมลงไปมาก แต่ยังคงเหลือที่เที่ยวชมได้ราว 20 แห่ง สถานที่แห่งนี้มีพฤกษานานาพรรณกว่า 3,000 ชนิด และสัตว์ป่าจำนวนมากกว่า 300 ชนิด อีกทั้งได้รับการประกาศจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม
เซียงเก๋อหลี่ลา(แชงการีลา) : ภูเขาหิมะแห่งจินตนาการ
เมื่อถึงคราเหมันตฤดูมาเยี่ยมเยือน ณ ภูเขาหิมะแชงการีลา จากเดิมที่มีเพียงยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวโพลนตัดกับทุ่งหญ้าเขียวขจี ก็กลับกลายเป็นภูเขาที่มีหิมะสีขาวโพลนรังสรรค์ไปทั่วทุกพื้นที่ ดุจดั่งผลงานศิลปะชิ้นเอกจากสรวงสวรรค์ ที่สะบัดหมึกจากปลายพู่กันลงมาเป็นก้อนหิมะขาว แปรเปลี่ยนสถานที่แห่งนี้ให้กลายเป็นโลกแห่งจินตนาการ ปุยเมฆขาวอ่อนนุ่ม พร้อมสัมผัสแห่งความสดชื่นจากไอเย็นของหิมะ ทิวเขาขาวเกลี้ยงเรียงยาวไกล เกล็ดหิมะเกาะไสวอยู่บนปลายหญ้า ชวนเคลิบเคลิ้มสุขสราญในความงามแห่งธรรมชาติอันแสนบริสุทธิ์
ภูเขาหิมะเซียงเก๋อหลี่ลา(แชงการีลา) อยู่ทางตะวันตกของมณฑลอวิ๋นหนาน(ยูนนาน) มีกระเช้ายาว 4,157 เมตร ให้ใช้บริการชมวิวทั่วภูเขา โดยหากนั่งกระเช้าไปจะพบจุดชมวิวแห่งแรกคือ ทุ่งหญ้งย่าลาชิงปัว ซึ่งเป็นทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์คุณภาพดีเยี่ยม มีตัวจามรีอยู่มากมาย ทางตะวันตกเฉียงใต้ของทุ่งหญ้าแห่งนี้ เป็นทะเลสาบแห่งสีสันอันงดงาม สภาพแวดล้อมโดยรอบได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี รักษาไว้ซึ่งทิวทัศน์แห่งความสงบและน่าค้นหา และหากไปถึงยอดเขาแห่งนี้ ในระดับความสูง 4,449 เมตร จะพบกับทัศนียภาพอันงดงามตระการตาของพื้นที่ต่างๆที่ชโลมด้วยหิมะขาวบริสุทธิ์ยาวไปไกลสุดฟ้า นอกจากนี้ ยังมีจุดชมวิวอีกแห่งคือ หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน ที่มีทิวทัศน์งามดั่งภาพวาดแห่งจินตนาการเช่นกัน
จิ่วไจ้โกว : ดินแดนแห่งเทพนิยาย
ดินแดนแห่งเทพนิยายในตำนานแห่งนี้ เมื่อเข้าสู่ฤดูใบไม้ร่วง ใบไม้จะผลัดเปลี่ยนเป็นสีแดงส้ม เสมือนมวลบุปผชาติได้แต่งแต้มทะเลสาบแห่งฤดูหนาว ความสวยงามแปลกตาของจิ่วไจ้โกวในช่วงเวลานี้ เกิดขึ้นจากองค์ประกอบแห่งธรรมชาติที่สอดประสานกันอย่างลงตัว ไม่ว่าจะเป็นทะเลสาบหลากสีสันอันงดงาม ภูเขาหิมะที่มีสีเหลือง ขาว เขียว ผสมผสานกัน กอปรกับปุยหิมะบริสุทธิ์เย็นสดชื่น ผาน้ำแข็งสุดแสนวิจิตร เกล็ดน้ำแข็งในสถานที่แห่งนี้เป็นสีฟ้าสวยสดใส และนอกจากมหัศจรรย์แห่งความสวยงามในช่วงฤดูหนาวแล้ว ทะเลสาบหลากสีสันแห่งนี้ แม้ไม่ได้กลายเป็นน้ำแข็ง และแม้ไม่ได้สะท้อนเงาสีสันจากขุนเขา แต่กลับสะท้อนสีสันของความงดงามจากธรรมชาติแห่งก้นทะเลสาบขึ้นมา เป็นสีต่างๆที่เกือบครบทุกสีของธรรมชาติที่มีอยู่บนโลกนี้ น้ำทะเลสาบของที่นี่ใสบริสุทธิ์ดุจน้ำแร่แห่งสรวงสวรรค์ เมื่อลมพัดโบกไปเพียงระลอกหนึ่ง สีสันความงามก็ดูเสมือนจะพริ้วไหวเปลี่ยนไปตามสายลมในบัดดล เฉกเช่นภาพวาดสีน้ำมันแสนสวย และเมื่อหิมะยิ่งโปรยกระหน่ำลงมา ยิ่งดูละม้ายคล้ายปุยสีขาวของต้นหลิวแห่งฤดูใบไม้ผลิ เริงระบำอยู่กลางสายลมอย่างสนุกสนาน และปลิวไสวไปสะกิดภูเขา กับสายน้ำ พร้อมทั้งสัมผัสใบหน้าของผู้มาเยี่ยมชมอย่างแผ่วเบาอ่อนละมุน
จิ่วไจ้โกว ที่ซึ่งบทกวีต่างพรรณนาอุปมาไว้ว่าเป็นแดนสวรรค์ ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของเทือกเขาหมินซาน ห่างจากเมืองเฉิงตูไปทางเหนือ 330 กิโลเมตร เป็นเขตอนุรักษ์ธรรมชาติทางตอนเหนือของมณฑล(ซื่อชวน)เสฉวน มีชื่อเสียงจากน้ำตกหลายระดับชั้นและทะเลสาบที่มีสีสันงดงาม และได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี พ.ศ. 2535
ฮาเอ่อร์ปิน : เหมันต์หรรษา
เมืองแห่งหิมะงามน้ำแข็งสวยของมณฑลเฮยหลงเจียงที่มีฤดูหนาวอันยาวนาน ซึ่งตั้งอยู่ทางฝั่งใต้ของแม่น้ำซงฮวา เป็นสถานที่ที่ได้รับสมญานามว่า“มอสโกแห่งตะวันออก” ที่จะทำให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสบรรยากาศอันแสนตื่นตากับเสน่ห์แห่งแสงสีของเทศกาลหิมะและน้ำแข็งของเมืองแห่งนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงต้นปี อีกทั้งสนุกสนานเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆมากมาย อาทิ สกีหิมะ, แคร่เลื่อน,สโนว์โมบิล, รถม้าลาก, เล่นสเก็ตบนทะเลสาบน้ำแข็ง ฯลฯ สำหรับสถานที่ที่มีชื่อเสียง คือ สกีรีสอร์ทย่าปู้ลี่ แห่งเมืองซั่งจื้อ มณฑลเฮยหลงเจียง ซึ่งมีพื้นที่เล่นสกีถึง 20 ตารางกิโลเมตร นับเป็นรีสอร์ทสกีที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน และสามารถนั่งกระเช้าขึ้นไปสูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 1,000 เมตร ชมวิวทิวทัศน์อันงดงามของป่าเขาลำเนาไพรที่ปกคลุมด้วยหิมะขาวในเบื้องล่าง นอกจากนี้ ยังมีโบสถ์เซนต์โซเฟีย (St.Sophia Church) ซึ่งออกแบบและสร้างโดยสถาปนิกชาวรัสเซีย เมื่อก่อนเคยใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมทางศาสนาที่สำคัญต่างๆ ของชาวรัสเซีย แต่ถูกทำลายตอนปฏิวัติวัฒนธรรม และได้มีการสร้างขึ้นมาใหม่อีกครั้งโดยพยายามรักษารูปแบบเดิมไว้ให้ได้มากที่สุด ในปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนมาเป็นศูนย์ศิลปะและสถาปัตยกรรมแสดงภาพถ่ายขาวดำเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เมืองฮาร์บิน
ภูเขาฉางไป๋ซาน : ภูเขาหิมะลือชื่อ น้ำพุร้อนลือชา
คราเหมันตฤดูปกคลุมทั่วเทือกเขาฉางไป๋ซาน แสงแดดสาดส่องลงมากระทบกับหิมะขาว ดูระยิบระยับดุจดวงดาวบนผืนดิน ขณะที่ ไออุ่นจากบ่อน้ำพุร้อนได้สร้างความสดชื่นท่ามกลางความหนาวเย็นได้อย่างน่าอัศจรรย์
ภูเขาฉางไป๋ซาน แห่งมณฑลจี๋หลิน ได้รับการจัดอันดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับ 5A ของจีน มีอาณาบริเวณกว่า 2,000 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุมประเทศจีนและเกาหลีเหนือ เดิมเคยเป็นภูเขาไฟ แต่ดับมอดลงในยุคสมัยเฉียนหลงฮ่องเต้ แห่งราชวงศ์ชิง ด้วยความสูงใหญ่ของเทือกเขาฉางไป๋ซานแห่งนี้ สภาพภูมิประเทศ พืชพันธุ์ และวิวทิวทัศน์จึงมีความแตกต่างหลากหลาย อีกทั้งมีสมุนไพร ไม้ดอก ไม้ประดับ และสัตว์ป่าที่หายากนานาพันธุ์ ขณะที่ ทิศเหนือใต้ออกตกก็มีทิวทัศน์อันเป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำกัน ทั้งยังเป็นเขตสงวนที่องค์การสหประชาชาติ ประกาศให้เป็น "มรดกโลก" สำหรับจุดสูงสุดของเทือกเขานี้มีชื่อว่า “ไป๋โถวซาน หรือ ภูเขาหัวขาว” เนื่องจากตอนบนของเทือกเขานี้มีหิมะปกคลุมตลอด
นอกจากนี้ยังมีทะเลสาบเทียนฉือ หรือเรียกอีกชื่อว่า “ทะเลสาบสวรรค์”เป็นแอ่งขนาดใหญ่ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาสูงถึง 16 ยอด ครอบคลุมพื้นที่กว่า 9.8 ตารางกิโลเมตร และอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเลถึง 2,155 เมตร มีระดับน้ำลึกถึง 373 เมตร ทะเลสาบเทียนฉือนับเป็นทะเลสาบปากปล่องภูเขาไฟที่สูงใหญ่และลึกที่สุดในโลก และยังเป็นแหล่งกำเนิดของแม่น้ำ 3 สายสำคัญในแถบอีสานจีน ได้แก่ ถูเหมินเจียง ยาลู่เจียง(ที่กั้นระหว่างจีนและเกาหลีเหนือ) และ ซงฮวาเจียง ความพิเศษอีกประการหนึ่งของทะเลสาบนี้คือ น้ำในทะเลสาบแห่งนี้ไม่เคยแห้งเลยตลอดทั้งปี ประกอบกับมีจุดขึ้นลงและทิวทัศน์ที่แตกต่างกันในแต่ละฤดู
ภูเขาเอ๋อเหมยซาน : ขุนเขาแห่งมนต์ขลัง
ภูเขาเอ๋อเหมยซาน หรือที่เรียกว่า เขาง๊อไบ๊ ถือเป็น 1 ใน 4 ภูเขาอันศักดิ์สิทธิ์ทางพุทธศาสนาและทางลัทธิเต๋าของจีน (ประกอบด้วยอู่ไถซาน จิ่วหัวซาน เอ๋อเหมยซานหรือง้อไบ๊ และผู่ถัวซาน) มีทิวทัศน์ที่สวยงามโดดเด่น และแปลกตาแตกต่างกันไป ประดุจดั่งมี 4 ฤดูอยู่ในภูเขาแห่งเดียว
เมื่อเยื้องย่างเข้าสู่ในช่วงต้นฤดูหนาว หรือ เดือนพฤศจิกายน หมู่แมกไม้สีเขียวเข้ม บนเอ๋อเหมยซาน หรือ เขาง๊อไบ๊ จะค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเหลืองสว่างสดใส และกลายมาเป็นสีแดงระเรื่อ ทะเลเมฆบนเขาสูงแห่งนี้ ดูเพลินตาผ่อนคลายสบายใจ และยังมีน้ำพุร้อนอุดมด้วยแร่ธาตุชวนหลงใหลที่มีไอคละคลุ้งฟุ้งไปดุจหมอกละมุนแห่งความฝัน ให้สัมผัสแห่งความอบอุ่น ขณะที่ เสน่ห์แห่งธรรมชาติบนขุนเขาแห่งนี้ก็สามารถสะกิดความเงียบสงบในจิตใจ ให้ปล่อยวางเรื่องราวต่างๆและบังเกิดเป็นปิติสุขระหว่างที่อยู่ ณ สถานที่อันศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้
ภูเขาง๊อไบ๊แห่งนี้ ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของตำบลเอ๋อเหมย มณฑล(ซื่อชวน)เสฉวน มีลักษณะของภูที่เหมือนวงคิ้วของสาวงาม มียอดสูงที่สุดจากระดับน้ำทะเล ถึง 3,099 เมตร และบนภูเขามีอารามต่างๆรวม 151 แห่ง ส่วนใหญ่ทรุดโทรมลงไปมาก แต่ยังคงเหลือที่เที่ยวชมได้ราว 20 แห่ง สถานที่แห่งนี้มีพฤกษานานาพรรณกว่า 3,000 ชนิด และสัตว์ป่าจำนวนมากกว่า 300 ชนิด อีกทั้งได้รับการประกาศจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม
