เซาท์ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ - เจ้ากระทรวงการรถไฟคนใหม่ของจีนจัดประชุมฉุกเฉิน ภายหลังการปลดรัฐมนตรี ข้อหาคอร์รัปชั่น ผู้สันทัดกรณีชี้อาจมีการยกเครื่องครั้งใหญ่กิจการรถไฟแดนมังกร ซึ่งกุมผลประโยชน์มหาศาล
ภายหลังการสั่งปลดนาย หลิว จื่อจุน จากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการรถไฟ และตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อหาทุจริตคอร์รัปชั่น นาย เซิง กวงจู ซึ่งได้รับแต่งตั้งดำรงตำแหน่งแทน ได้จัดการประชุมทางไกลฉุกเฉิน เรียกร้องความเป็นเอกภาพของกระทรวงภายใต้การนำของประธานาธิบดี หู จิ่นเทา อันเป็นการสวนทางกับชื่อเสียงของกระทรวงการรถไฟ ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า เหมือนอาณาจักรทรงอิทธิพล ซึ่งเป็นอิสระจากรัฐบาลกลาง
ทั้งนี้ กระทรวงการรถไฟของจีนจ้างพนักงานมากเกือบ 3 ล้านคน และกุมงบประมาณจำนวนมหาศาล ซึ่งรวมทั้งโครงการลงทุนรถไฟความเร็วสูง มูลค่าหลายพันล้านหยวน นอกจากนั้น ยังมีกิจการโรงเรียน โรงพยาบาล และบริการโทรคมนาคมสื่อสารเป็นของกระทรวงเองอีกด้วย
นักลงทุนในกองทุนบริหารความเสี่ยงของสหรัฐฯ รายหนึ่งระบุว่า ปัญหาของกระทรวงนี้ก็คือเกี่ยวข้องกับธุรกิจและผลประโยชน์ต่าง ๆ มากมายเกินไป ซึ่งไม่เกี่ยวกับเรื่องรถไฟเลย เช่น ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ การค้าขาย คาราโอเกะ อาหาร และการจำหน่ายรถยนต์
ขณะที่ผู้บริหารด้านการรถไฟของอังกฤษ ซึ่งไม่ประสงค์เปิดเผยนามมองว่า หลังจากการปลดนายหลิว รัฐบาลปักกิ่งอาจลงมือดำเนินการให้ตลาดเข้ามาขับเคลื่อนภาคการรถไฟของจีน โดยให้มีการแปรรูปบริษัทรถไฟของรัฐ ไปสู่มือเอกชนมากขึ้น และผลักดันให้เป็นอิสระจากการควบคุมของกระทรวง
นายแดน ชามอร์โร่ ผู้อำนวยการฝ่ายเอเชีย-แปซิฟิก ของริสก์ คอนโทรล (Risk Control) บริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงระหว่างประเทศระบุว่า ยิ่งองค์กรมีงบประมาณมากเท่าใด การหลบซ่อนการละเมิดวินัยก็ยิ่งง่ายขึ้น ส่วนโครงการก่อสร้างสิ่งสาธารณูปโภคต่าง ๆ ก็ขึ้นชื่อกระฉ่อนกันอยู่แล้วเรื่องความเสี่ยง ที่จะเกิดการทุจริตคอร์รัปชั่นสูง นี่คือความเป็นจริง ซึ่งเกิดขึ้นทุกแห่งหนทั่วโลก ไม่เฉพาะแต่ที่จีนเท่านั้น
ระหว่างเป็นเจ้ากระทรวงการรถไฟนาน 8 ปี นายหลิว ซึ่งใช้ชีวิตทางการเมืองเกือบทั้งชีวิตคลุกคลี่อยู่ในภาคการรถไฟ ได้ผลักดันการพัฒนารถไฟความเร็วสูง จนได้รับฉายาว่า “หลิวผู้กระโจน” โดยงบประมาณสำหรับรถไฟความเร็วสูงระหว่างปี 2554-2558 ของจีนมีจำนวนทั้งสิ้น 3.5 ล้านล้านหยวน และกระทรวงการรถไฟตั้งเป้าขยายเครือข่ายรถไฟความเร็วสูงในประเทศให้ได้ 25,000 กิโลเมตรภายในปี 2558
อย่างไรก็ตาม ความสามารถในฐานะเจ้ากระทรวงการรถไฟของนายหลิวตกเป็นเป้าสงสัย และมีการพูดกันหนาหูในช่วง 5 ปีก่อนว่าเขาจะถูกปลด เนื่องจากเกิดอุบัติเหตุทางรถไฟบ่อยครั้ง ซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถไฟบนแผ่นดินใหญ่ถึง 7,300 คนในปี 2548 หรือคิดเป็นอัตราเฉลี่ยมีผู้เสียชีวิต 20 คนต่อวัน จากข้อมูลของทางการ
เสียงเรียกร้องให้นายหลิวลาออกดังกระหึ่มมากที่สุด เมื่อเกิดอุบัติเหตุรถไฟชนกันในมณฑลซานตงเมื่อปี 2551 ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 72 คน บาดเจ็บ 416 คน และในปีนั้นเอง บริการรถไฟยังเป็นอัมพาตเกือบสิ้นเชิงจากพายุหิมะกระหน่ำในช่วงเทศกาลตรุษจีน ทำให้ผู้โดยสารหลายล้านคนต้องติดค้างตามสถานีต่าง ๆ
กระทรวงการรถไฟยังถูกวิจารณ์อย่างหนักเรื่องการหาซื้อตั๋วรถไฟลำบากในช่วงเทศกาลตรุษจีน โดยมีตั๋วจำนวนมากตกไปอยู่ในมือผู้ค้ากำไร ทำให้ประชาชนบางส่วนต้องซื้อตั๋วรถไฟแพงกว่าราคาจริง