xs
xsm
sm
md
lg

ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน บินรบหลบเรดาร์ เจ-20 จีนทำได้ไม่ต้องก้อปฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

J-20 เครื่องบินขับไล่ หลบหลีกเรดาร์ของจีน ซึ่งเล่นเอาสหรัฐฯ ไม่เชื่อสายตา ว่าจีนจะสามารถพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องบินรบ เทียบชั้นกับเครื่องบิน F-22 ของตนและ Sukhoi T-50 ของรัสเซีย (ภาพเอเยนซี)
เอเยนซี - ผู้เชี่ยวชาญฯ ยืนยัน จีนพัฒนาเครื่องบินหลบเรดาห์ เจ-20 ด้วยเทคโนโลยีของตนเองได้ ไม่ลอกแบบเครื่องบินรบของสหรัฐฯ ยันมีศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยไฮเทคพอ

หลังจากที่สื่อต่างประเทศได้รายงานเมื่อวันที่ 24 ม.ค. ว่า ศาลศาลกลาง โฮโนลูลู เกาะฮาวาย ตัดสินโทษจำคุกตลอดชีวิตนายโนชีร์ โกวาเดีย วิศวกรอเมริกันฮาวาย เชื้อสายอินเดีย ซึ่งเป็นอดีตวิศวกรผู้มีประสบการณ์ในการสร้างเครื่องบินสเตลธ์ บี-2 โดยเขาถูกตัดสินว่ามีความผิด 14 กระทง ทั้งสมรู้ร่วมคิด สนับสนุนให้ความช่วยเหลือต่างชาติเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ และละเมิดสนธิสัญญาควบคุมการส่งออกอาวุธสงคราม

อัยการฯ ระบุว่า โกวาเดียช่วยจีนออกแบบจรวดต่อต้านเรือรบ โดยได้รับค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน เดือนละ 15,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ และค่าตอบแทนจากการขายข้อมูลลับทางทหาร ไม่น้อยกว่า 110,000 เหรียญสหรัฐฯ

ก่อนหน้านี้ สื่อต่างประเทศรายงานวันที่ 22 ม.ค. อ้างความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญและเจ้าหน้าที่ทหารในภูมิภาคบอลข่านว่า เครื่องบินเจ 20 ของจีนอาจจะก้อปปี้เทคโนโลยีบางอย่างจากเครื่องบินรบ รุ่น เอฟ 117 ไนท์ฮอว์ค ที่ถูกยิงตกที่เซอร์เบียในปี 2542 โดยรายงานข่าวกล่าวว่า เอฟ 117 ไนท์ฮอว์ค แม้จะมีระบบไฮเทคหลบการตรวจจับของเรดาร์ แต่ก็สิ้นชื่อเมื่อเป็นเครื่องบินล่องหนลำแรกของโลกที่ถูกยิงตก เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2542 ระหว่างปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ในสงครามโคโซโว โดยพ่ายต่อกลยุทธป้องกันและขีปนาวุธต่อสู้อากาศยานของเซอร์เบีย (ขีปนาวุธเอสเอ 3 ของโซเวียต)

เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมจีนคนหนึ่ง กล่าวกับโกลบอลไทมส์ วันที่ 24 ม.ค. ว่า ไม่ใช่ครั้งแรกที่สื่อต่างชาติ เกทับเทคโนโลยีของจีน ซึ่งจีนไม่สนใจและมองว่าไร้สาระ ไม่เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาใดๆ ในการไปต่อล้อต่อเถียง

ภาพเปรียบเทียบลำต่อลำ เครื่องบินรบไฮเทคจ้าวเวหา ระหว่าง ที-50 ของรัสเซีย (ซ้าย) เอฟ-22 ของสหรัฐฯ(กลาง) และ เจ-20 ของจีน

รายงานข่าวกล่าวว่า จีนได้เปิดตัวทดสอบสมรรถนะ เครื่องบินไฮเทค เจ 20 เมื่อต้นเดือนมกราคม ในเวลาเดียวกับที่รัฐมนตรีกลาโหมของสหรัฐ โรเบิร์ต เกตส์ กำลังเยือนจีน (11 ม.ค.) จนเป็นที่ฮือฮาข่าวใหญ่ทั่วโลก

ซู หย่งหลิง หนึ่งในนักบินทดสอบชั้นเลิศของจีน กล่าวว่า เจ-20 เป็นเครื่องบินรบโจมตีสมรรถนะสูง ซึ่งแตกต่างจากเครื่องบินรบรุ่น เจ-7 และ เจ-8 ถือเป็นงานมาสเตอร์พีซจีนแท้ เป็นงานต้นแบบที่ทำลายขีดจำกัดทางเทคโนโลยีของกองทัพอากาศจีนไปสู่ยุคใหม่

ซู ยังได้เปรียบเทียบ ว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะกล่าวหาว่า จีนลอกแบบเทคโนโลยีจากเครื่องบินรุ่น เอฟ-117 ซึ่งปฏิบัติการในปี 2526 เทคโนโลยีของ เอฟ-117 เป็นเทคโนโลยีของ 30-40 ปีที่แล้ว นับว่าล้าสมัย และว่าล้าสมัยก่อนเวลาที่จะถูกยิงตก เมื่อปี 2542 ด้วยซ้ำ

โซแรน มิลิเซวิค รองผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์การบิน ในกรุงเบลเกรด ซึ่งปัจจุบันนี้ ได้จัดแสดงชิ้นส่วนของเครื่องบิน เอฟ-117 อาทิ ปีกด้านซ้าย และส่วนครอบของห้องนักบิน ที่นั่ง และหมวกพร้อมอุปกรณ์สื่อสาร กล่าวว่า ชิ้นส่วนที่หายไปของเครื่องบิน เอฟ-117 ซึ่งตกในเซอร์เบียลำนั้นกระจายไปที่ไหนไม่อาจทราบได้ ในเวลานั้นเป็นข่าวใหญ่มาก และนานาชาติต่างก็มีส่วนเข้ามารับรู้ ทั้งสหรัฐฯ จีน และรัสเซีย

หวัง ย่าหนัน ผู้ช่วยบรรณาธิการ นิตยสาร Aerospace Knowledge กล่าวว่า เอฟ-117 ไม่น่าจะเป็นต้นแบบให้จีนไปพัฒนา เจ-20 ได้ เพราะเอฟ-117 เป็นเครื่องบินที่มีจุดอ่อนมากมาย ทั้งเชื่องช้า และไม่มีเขี้ยวเล็บในภารกิจโจมตีเลย เขาเสริมว่าถ้าจะจับคู่ชน น่าจะใกล้กับ เอฟ-22 มากกว่า ทั้งในสมรรถนะการโจมตีหนักหน่วง และความรวดเร็วคล่องตัว

รายงานข่าวกล่าวว่า หน่วยงานเอฟบีไอ สหรัฐฯ ได้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่จาก 150 คน ในปี 2544 เป็น 350 คน ในปี 2550 เพื่อสืบสวน ป้องกันข้อมูลความลับไฮเทคของประเทศจากสายลับต่างชาติ รวมถึงสิ่งที่สหรัฐฯ อ้างว่าเป็น "หน่วยจารกรรมไฮเทคของจีน"

หลี่ ต้ากวง นักวิเคราะห์การทหารจีน กล่าวว่า คำกล่าวเหล่านั้นไร้ข้อมูลหลักฐาน และเป็นเพียงการหาเหตุผลปลอบขวัญคลายอาการวิตกกังวล ต่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของจีน ซึ่งไม่เพียงจะมีศักยภาพในการพัฒนาเทคโนโลยีล้ำสมัยไฮเทคของตนเองเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างโมเดลของตนเองด้วย

กำลังโหลดความคิดเห็น