เอเยนซี-จีน สหรัฐฯ ส่งสัญญาณหันหน้าเข้าหากัน หลังจากที่หมางกันไปพักใหญ่จากความขัดแยังตลอดสามเดือนที่ผ่านมา ทั้งเรื่องค่าเงินหยวน ทิเบต ไต้หวัน และเสรีภาพอินเทอร์เน็ต
ฉิน กัง โฆษกกระทรวงต่างประเทศ กล่าวเมื่อวันอังคาร์ที่ 30 มี.ค. ก่อนหน้าการประชุมระดับสูงระหว่างสองชาติในอีกไม่ถึงสองเดือนนี้ ว่า จีนชื่นชมทัศนคติของผู้นำสหรัฐฯ ในการที่จะกระชับความสัมพันธ์
ฉิน เสริมว่า มิตรภาพอันดีระหว่างสหรัฐฯ และจีนจะนำมาซึ่งผลประโยชน์ร่วมกัน อันหมายถึง สันติภาพ เสถียรภาพ และความรุ่งเรืองทั้งในภูมิภาคเอเชีย และประชาคมโลก
คำแถลงของ ฉิน กัง มีขึ้นเพื่อตอบรับคำแถลงของโอบามา ที่กล่าวเมื่อวันจันทร์ ในโอกาสต้อนรับเอกอัครราชทูตจีนประจำสหรัฐฯ คนใหม่ จาง เยี่ยซุ่ย ว่าต้องการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและสร้างสรรค์กับจีน โดยในวันเดียวกันนั้น เจมส์ สไตน์เบ็ค รักษาการรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม สหรัฐฯ ก็กล่าวกับสื่อมวลชน ในกรุงวอชิงตันว่า สหรัฐฯ ยังยึดจุดยืนเดิมสนับสนุนนโยบายจีนเดียว ขณะเดียวกันก็พร้อมจะส่งเสริมความพยายามของปักกิ่งและไทเปในการลดความตึงเครียดของช่องแคบไต้หวัน ทั้งกล่าวว่า ไม่ว่าจะเป็นพรรคเดโมแครต หรือรีพับลิกัน ก็ล้วนตระเหนักถึงหลักการพื้นฐานของจีนในเรื่องนี้
ซุน เจ๋อ ผู้อำนวยการศูนย์ความสัมพันธ์ จีน-สหรัฐฯ มหาวิทยาลัยชิงหัวกล่าวว่า ถ้อยทีถ้อยอาศัยล่าสุดของทั้งสองฝั่ง ถือเป็นจุดเปลี่ยนในทางสร้างสรรค์ต่อความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี แม้ว่า อย่างไรเสีย ในทางข้างหน้า ก็คงเลี่ยงการกระทบกระทั่งกันไม่พ้น อย่างเช่น ล่าสุด ที่สภานิติบัญญํติ สหรัฐฯ ต้องการให้กระทรวงการคลังระบุลงไปในรายงานว่าจีน “ปั่นค่าเงิน” แต่ดูเหมือนว่าทางกระทรวงการคลังฯ ยังไม่สรุปความเห็นแบบนั้น
ซุนคาดว่า ฝ่ายบริหารของโอบามารู้ดี และคงไม่ระบุเช่นนั้น แต่อาจจะเป็นเพียงว่า ค่าเงินหยวนต่ำกว่าความเป็นจริง เช่นที่เคยอ้างอยู่เสมอ
ด้าน หลี่ เต้าขุย ที่ปรึกษาธนาคารประชาชนจีน กล่าวว่า จีนต้องไม่โอนอ่อนต่อแรงกดดันทางการเมืองจากสหรัฐฯ จนเสียจุดยืนในการดำเนินการเพื่อความเหมาะสมตามสภาพของตนเอง ทั้งนี้ อาจจะมีการประเมินปรับค่าเงินกันในเดือนกันยายน เพื่อจะไม่ต้องตกเป็นประเด็นให้สหรัฐฯ นำไปใช้ในการเลือกตั้งกลางเทอมในเดือนพ.ย.ปีนี้
หวัง เยี่ยโจว ศาสตราจารย์ภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จากสถาบันสังคมศาสตร์จีน กล่าวว่า เรื่องขัดแย้งที่รออยู่ยังมี อาทิ โลกร้อน สิทธิมนุษยชน ดังนั้น การบริหารจัดการวิกฤติการณ์ต่างๆ จะมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่ ความเดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย ก็คงเป็นเรื่องปกติวิสัยไป
ในการประชุมระดับสูงด้านยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจรอบหน้าจะมีขึ้นที่กรุงปักกิ่ง ปลายเดือนพฤษภาคม โดยคาดว่าจะมีรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน และรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ทิโมธี ไกท์เนอร์มาร่วมประชุม กับรองนายกรัฐมนตรีจีน หวัง ฉีซาน และที่ปรึกษาแห่งรัฐ ไต้ ปิงเกา ผู้จะเป็นหัวหน้าคณะเจรจาฯ
นอกจากนี้ วาระสำคัญที่โลกกำลังจับตาดูจีน คือคำตอบว่าจะเอาอย่างไรกับกรณีนิวเคลียร์ของอิหร่าน ซึ่งสหรัฐฯ หวังให้จีนร่วมบอยคอต แต่จีนยังคงเสนอว่าต้องการใช้การแก้ปัญหาทางการทูตแทน ซึ่งเรื่องนี้ ปัง จงยิ่ง ศาสตราจารย์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจาก มหาวิทยาลัยเหรินหมิน กล่าวว่า โอบามา ได้ใช้โอกาสที่ดีในการต้อนรับเอกอัครราชทูตจีนคนใหม่ จาง เยี่ยซุ่ย เพื่อส่งสารไปถึงหู จิ่นเทา และด้วยท่าทีตอบรับที่ดีของจีน คงจะทำให้สามารถคาดหวังไปถึงผลดีต่อประเด็นนิวเคลียร์อิหร่านด้วย