เอเอฟพี-ศาลจีนตัดสินจำคุก 5 ปีนักนักรณรงค์สิทธิชาวจีน ผู้ตีแผ่ปัญหาทุจริตคอรัปชั่นโครงการก่อสร้างอาคารในโรงเรียนหลายแห่งในเสฉวน จนทำให้โครงสร้างอาคารในโรงเรียนต่ำกว่ามาตรฐานมาก พังทลายลงมาอย่างง่ายดาย เป็นเหตุให้เด็กนักเรียนเสียชีวิตจำนวนมาก
ถัน จั่วเหริน นักเขียนและนักรณรงค์สิ่งแวดล้อม ซึ่งเคยถูกตัดสินในความผิดฐาน "ยุยง สนับสนุนให้เกิดการโค่นล้มอำนาจรัฐ" จากการวิพากษ์วิจารณ์การปราบปรามกลุ่มผู้ประท้วงในเทียนอันเหมิน ปี 2532
เมื่อปีที่แล้ว เขาได้ถูกจับกุม ขณะออกมาแฉเหตุการเสียชีวิตของเด็กนักเรียนมากมายหลายพันคน เพราะถูกทับใต้ซากอาคารเรียนของตน ในเหตุแผ่นดินไหวที่มณฑลเสฉวนเมื่อปี 2551 ซึ่งมีประชาชนตายและสูญหายเกือบ 88,000 คน
องค์การนิรโทษกรรมสากล (Amnesty International) ได้กล่าวโดยอ้างมาจากแหล่งข่าวท้องถิ่น ว่า เหตุผลที่แท้จริงของการลงโทษจำคุกนี้ น่าจะเป็นเพราะที่เขาไปสืบสวนขุดคุ้ยเรื่องทุจริตในการสร้างอาคารโรงเรียนมากกว่า
ปู จีเฉียงทนายความของเขา กล่าวว่าถันจั่วเหรินถูกลงโทษจำคุกเป็นเวลา 5 ปีในความผิดฐาน ยุยงส่งเสริมให้มีการโค่นล้มอำนาจรัฐ และถอดถอนสิทธิทางการเมืองของเขาเป็นเวลาสามปีโดยที่ไม่มีฐานความผิดใดเกี่ยวกับเหตุแผ่นดินไหวเลย ทั้งหมดเป็นกรณีที่เกี่ยวเนื่องมาจากเหตุการณ์เทียนอันเหมินเมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2532 โดยศาลในมณฑลเสฉวนเฉิงตู ได้ใช้เวลาอ่านคำพิพากษาไม่ถึง 10 นาที และไม่มีความเห็นใดๆ จากเจ้าหน้าที่ศาล ขณะที่ถัน ซึ่งเชื่อว่าตนเองบริสุทธิ มีแผนการที่จะอุทธรณ์ต่อไป
การเสียชีวิตของเด็กนักเรียนนับพันๆ ในเสฉวน เพราะถูกซากอาคารทับ เมื่อครั้งแผ่นดินไหว ได้สร้างความโกรธแค้นต่อพ่อแม่ผู้ปกครอง เพราะสงสัยว่าจะมีการคอรัปชั่น ในการก่อสร้างอาคารต่ำกว่ามาตรฐาน มีผู้สนับสนุน ถัน มายืนรอฟังการอ่านคำพิพากษาที่หน้าศาล ราว 200 คน โดย หยาง หลี่ไค่ หนึ่งในนั้นกล่าวกับผู้สื่อข่าวทางโทรศัพท์ว่า ภรรยาและญาติของถัน ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าฟังคำพิพากษาในศาล
องค์การนิรโทษกรรมสากล กล่าวถึงคำตัดสินนี้ว่า ไม่ยุติธรรมและเรียกร้องให้ปล่อยตัวถัน โรซาน ไรฟ์ ผู้อำนวยการฯ ภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า การจับกุม ไต่สวนและตัดสินคดีนี้ ดูจะเป็นตัวอย่างของทางการฯ ที่อาศัยความกำกวมและขอบข่ายกฎหมายที่กว้างครอบจักรวาล ในการปิดปากและลงโทษผู้มีความคิดเห็นไม่ลงรอยกับตน และว่า ในกรณีเช่นนี้ จีนคงอ้างต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ว่าได้ดูแลคุ้มครองสิทธิมนุษยชนของจำเลยตามหลักกฎหมาย เพราะได้ละเลยเสียเอง
