เอเอฟพี - สาวมั่น นักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยบนเกาะฮ่องกง วัยต้น 20 ระบุ ชาวฮ่องกงจำนวน 7 ล้านคนควรรู้จักโกรธเสียบ้าง ที่มีชีวิตอยู่ภายใต้ระบบการเมืองแบบประชาธิปไตยครึ่งใบ
คริสติน่า ชาน นักศึกษามหาวิทยาลัย วัย 22 ปี และยึดอาชีพนางแบบเป็นงานนอกเวลา กล่าวที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศในฮ่องกงเมื่อวันพฤหัสฯ (4 ก.พ.) ว่า การใช้ “กำลังขั้นต่ำที่สุด” บางครั้งก็เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการต่อสู้เรียกร้องของผู้ประท้วง เมื่อต้องเผชิญกับสิ่งที่เธออธิบายว่า เป็นความรุนแรงจากการใช้พละกำลังของตำรวจ
“เราคือประชาชนที่โกรธแค้น เราขุ่นเคืองมาเป็นเวลานานแล้ว และ ตอนนี้ เราก็พบวิธีการใหม่ในการแสดงออกซึ่งสิ่งนี้ในที่สุด” ชาน ซึ่งจัดเป็นนักเคลื่อนไหวคนดังระบุ
“เราตัดสินใจใช้ความขัดเคืองนี้ มาทำบางสิ่งบางอย่าง เพื่อเปลี่ยนแปลงสถานการณ์” เธอกล่าวต่อ
“ ถ้าคุณไม่รู้สึกโกรธเลย ก็ควรจะถามตัวเองบ้างว่า ทำไมฉันถึงไม่โกรธ” ชานปุจฉา
ชานเป็นสมาชิกในกลุ่มคนรุ่น“หลังยุค 80” ซึ่งเป็นกลุ่มนักเคลื่อนไหว ที่กำลังเติบโต ประกอบด้วยคน ที่เกิดภายหลังปี 2523 โดยออกมาวิจารณ์ระบบการเมืองของฮ่องกง ที่พวกเขาเห็นว่า ขาดความโปร่งใสและความรับผิดชอบ
ปัจจุบัน สภานิติบัญญัติฮ่องกงประกอบด้วยสมาชิก 60 คน แต่มีจำนวนเพียงครึ่งเดียว ที่มาจากการลงคะแนนเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน นอกจากนั้น รัฐบาลปักกิ่งยังเป็นผู้เลือกคณะกรรมการจำนวน 800 คน เพื่อทำหน้าที่สรรหาหัวหน้าคณะผู้บริหารเขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งมาแทนตำแหน่งผู้ว่าการ หลังจากอังกฤษมอบคืนเกาะฮ่องกงแก่จีนในปี 2540
ชานตกเป็นเป้าสนใจครั้งแรก เมื่อเธอร่วมขบวนประท้วงเรียกร้องเอกราชของทิเบตระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกกรุงปักกิ่งเมื่อปี 2551 แต่หลังจากนั้น สื่อมวลชนก็ชอบเล่นข่าวเกี่ยวกับรูปลักษณ์การปรากฏกายของชาน และข่าวคราวความสัมพันธ์กับเพื่อนชาย
เมื่อเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ชานถูกจับกุมในข้อหาทำร้ายร่างกายตำรวจหญิงระหว่างเดินขบวนเรียกร้องประชาธิปไตยในวันขึ้นปีใหม่ แต่ได้รับการประกันตัว
ชานระบุว่า พวกตำรวจมักใช้กำลังโดยไม่จำเป็นเลยในการปราบปรามประชาชน โดยยกตัวอย่างการชุมนุมประท้วงโครงการสร้างรางรถไฟเชื่อมระหว่างฮ่องกงกับแผ่นดินใหญ่เมื่อเดือนม.ค. ซึ่งตำรวจตั้งเครื่องกีดขวาง และฉีดสเปรย์พริกไท
นางแบบสาวพาร์ตไทม์เถียงว่า การเข้าปะทะกับตำรวจเป็นเรื่องมีเหตุผล
“การมีเหตุผลหมายถึงการใช้ความสงบอย่างเดียวรึคะ ?” เธอย้อนถาม
“ถ้าเราใช้เหตุผลก็คือเราไม่ตอบโต้หรือคะ? หรือเราจะใช้กำลังให้น้อยที่สุด? มันคือกำลัง ที่เราจำเป็นต้องใช้เข้าจัดการกับเครื่องกีดขวางพวกนั้นน่ะ”
เอาละซิ ! งานนี้ต้องให้มหาตมะ คานธีอธิบาย