บลูมเบิร์ก นิวส์ – CIC กองทุนบริหารเงินสำรองภาครัฐแดนมังกรเล็งขนเงินก้อนโตลงทุนรอบใหม่ในธุรกิจด้านทรัพยากรธรรมชาติ หลังจากทำกำไรน่าพอใจในปีที่แล้วจากการลงทุนในบริษัทสินค้าโภคภัณฑ์ต่างแดน
นักวิเคราะห์ระบุว่า บรรษัทการลงทุนแห่งประเทศจีน (China Investment Corp.) หรือ CIC ซึ่งมีเงินทุนจดทะเบียนจำนวน 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นทั้งในเงื่อนไขด้านตลาด และความเหมาะเจาะลงตัว ที่จะใช้กลยุทธ์กระจายการลงทุนในระยะยาว หลังจากในปีที่แล้วตัดสินใจถูก เพิ่มการลงทุนในสินทรัพย์ด้านพลังงานและสินแร่ เพื่อทำกำไรในช่วงที่เศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว โดยในปี 2551 ซึ่งเป็นปีแรกของวิกฤตสินเชื่อครั้งเลวร้ายที่สุดนั้น CIC ได้หลบเลี่ยงวิกฤตมาโดยตลอด ทำให้ในปี 2552 อาจได้ผลตอบแทนจากการลงทุนสูงกว่าร้อยละ 10 ก็เป็นได้
จากการเปิดเผยของนายโหลว จี๋เหว่ย ประธานกรรมการบริหารของCIC ต่อที่ประชุมเอเชียน ไฟแนนเชียล ฟอรัม ซึ่งจัดขึ้นที่ฮ่องกงเมื่อวันที่ 20 ม.ค.ที่ผ่านมานั้น CIC ได้มีการหารือเร็วกว่ากำหนด เพื่อเข้าลงทุนโดยตรงในบราซิล ซึ่งเป็นชาติส่งออกแร่เหล็กรายใหญ่อันดับ 2 ของโลก และเม็กซิโก ผู้ส่งออกแร่เงินรายใหญ่อันดับ 2
ในช่วงครึ่งหลังของปีที่แล้ว นายโหลวทุ่มงบประมาณลงทุนราว 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในบริษัทโภคภัณฑ์ ซึ่งล้วนก่อผลกำไร โดยเข้าซื้อหุ้นในTeck Resources Ltd. บริษัทผลิตโลหะรายใหญ่สุดของแคนาดา, บริษัทพลังงาน ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของคาซักสถาน, Nobel Oil Group ของรัสเซีย , AES Corp. บริษัทผู้ผลิตไฟฟ้าของสหรัฐฯ และGCL-Poly Energy Holdings Ltd. ซึ่งเป็นผู้ผลิตโพลีซิลิคอนรายใหญ่สุดของจีน
ขณะที่การลงทุนช่วงก่อนหน้านั้นยังได้ชดเชยการขาดทุนบางส่วนเมื่อปีที่แล้ว โดยราคาหุ้นของแบล็กสโตน กรุ๊ป แอลพี ซึ่งเป็นบริษัทบริหารเงินทุน ปรับขึ้นสองเท่า หุ้นของมอร์แกน สแตนลีย์ วาณิชธนกิจสหรัฐฯ ปรับขึ้นร้อยละ85 โดยบริษัททั้งสอง ซึ่งCIC เข้าลงทุน เคยทำให้CICขาดทุนอย่างหนักเมื่อปลายปี 2550
ผลตอบแทนเหล่านั้นอาจกระตุ้นให้CIC “ยิ่งรุกหนัก” นายจาง จี๋หมิง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยการจัดสรรสินทรัพย์ของเอชเอสบีซี โฮลดิงส์ พีแอลซีในฮ่องกงระบุ โดยขณะนี้นักลงทุนส่วนใหญ่ ซึ่งรวมทั้งCIC กำลังยึดหลักการกระจายการลงทุน 2 ชั้น กล่าวคืออันดับแรก เข้าซื้อสินทรัพย์ทุกอย่างด้วยจำนวนเล็กน้อย ซึ่งเป็นการขยายการลงทุนในทางภูมิศาสตร์ อันดับที่2 รู้จักจังหวะเวลาในการขยายการลงทุนออกไป เพื่อหลีกเลี่ยงความผันผวนของธุรกิจ
เขายังมองว่า มีความเป็นไปได้ ที่CIC จะขยายการลงทุนไปใน “ทุกประเภท”ในปีนี้ รวมทั้งการลงทุนในตลาดสหรัฐฯ และยุโรป ที่CIC หลีกเลี่ยงในช่วงปีที่แล้วระหว่างวิกฤตการเงินโลก โดยอาจเข้าลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และรถไฟความเร็วสูงในสหรัฐฯ
และหากได้เงินอัดฉีดอีก 2 แสนล้านดอลลาร์จากรัฐบาลปักกิ่งจริงตามรายงานของดิ อิโคโนมิก อ็อบเซอร์เวอร์ CIC ก็จะกลายเป็นกองทุนบริหารเงินสำรองภาครัฐ 1 ใน 3 กองทุนชั้นนำของโลก และมีความเคลื่อนไหวเชิงรุกมากที่สุดกองทุนหนึ่งในปี 2553-2558 แจน แรนดอล์ฟ นักวิเคราะห์ของ HIS Global Insight ในกรุงลอนดอนระบุ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่า การเพิ่มลงทุนในด้านทรัพยากรธรรมชาติ CIC อาจเผชิญอุปสรรคทางการเมือง เช่นในสหรัฐฯ และยุโรป ซึ่งอาจทำให้ต้องเบนเข็มไปที่ตลาดเกิดใหม่ โดยเฉพาะการลงทุนในทวีปแอฟริกา ซึ่งกำลังขาดแคลนเงิน สำหรับประเภทของทรัพยากรนั้น CIC อาจกำลังเล็งลงทุนด้านก๊าซธรรมชาติ และยูเรเนียมจากย่านเอเชียกลาง เพื่อป้อนความต้องการพลังงานในประเทศ
CIC ก่อตั้งขึ้นในเดือนก.ย.2550 โดยมีเงินทุนจดทะเบียนจากทุนสำรองเงินตราต่างประเทศของจีนจำนวน 2 แสนล้านดอลลาร์ การลงทุนของCIC นับตั้งแต่ก่อตั้งมาทำให้ทุนสำรองของจีน ซึ่งมีจำนวน 2.4 ล้านล้านดอลลาร์ โตถึงราวร้อยละ60 นอกจากนั้นเมื่อปีที่ผ่านมา CIC ยังอาจประสบความสำเร็จมากกว่ากองทุนบริหารเงินสำรองภาครัฐอื่น ๆ เช่นบรรษัทการลงทุนแห่งรัฐบาลสิงค์โปร์ หรือบรรษัทเพื่อการลงทุนแห่งอาบูดาบีอีกด้วย