เอเอฟพี-จีนแถลงวันศุกร์ (15 ม.ค.) ว่า การถอนกิจการของกูเกิลจากจีน ไม่ส่งผลกับเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ
หยาว เจียน โฆษกของกระทรวงพาณิชย์จีนเปิดเผยว่า กระทรวงฯ ยังไม่ได้รับรายงานใดๆจากกูเกิล อิงค์ ในเรื่องที่บริษัทจะถอนตัวจากการทำธุรกิจในจีน โดยกล่าวว่า จีนจะยังคงดูแลสภาพแวดล้อมด้านการลงทุนที่แข็งแกร่งให้กับนักลงทุนต่างชาติต่อไป
ซึ่งเหยา เจียน เสริมว่า ไม่ว่ากูเกิลจะตัดสินใจอย่างไร ก็ไม่กระเทือนกับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ และการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐฯ เพราะมีการสื่อสารกันหลายช่องทาง และก็ยังเชื่อมั่นต่อพัฒนาการที่ดีของประเทศทั้งสอง
คำกล่าวของเหยา เจียน สะท้อนจุดยืนนั้นอีกครั้ง ด้วยการบอกว่าใครก็ตามที่จะมาดำเนินกิจการในจีน ก็ต้องเคารพกฎหมาย กฎเกณฑ์ ความคิดเห็นของประชาชน วัฒนธรรม และประเพณี ตลอดจนนโยบายของประเทศที่ตนเองเข้ามาลงทุน รวมถึงการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมนั้นด้วย เพราะจีนได้เปลี่ยนโครงสร้างระบบเศรษฐกิจแบบเดิมมาเป็นระบบเศรษฐกิจการตลาดแห่งสังคมนิยม และความยืดหยุ่นกับการพัฒนาสังคมคือสิ่งที่เราคำนึงถึงก่อน
ความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ มีขึ้นภายหลังจากทำเนียบขาวต้องการคำอธิบายจากจีนต่อกรณีที่กูเกิลออกมาประกาศเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า จะไม่ยอมก้มหัวให้กับการเซ็นเซอร์อินเทอร์เน็ตของจีนอีกต่อไป และจะไม่กลัวกับการถูกขับออกจากประเทศนี้ ทั้งนี้ กูเกิล เปิดเผยว่า เมื่อช่วงกลางเดือนธ.ค.ที่ผ่านมา มีการพบหลักฐานว่ากลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างน้อย 20 แห่งในภาคอุตสาหกรรมการเงิน เทคโนโลยี สื่อ และเคมีภัณฑ์ตกเป็นเป้าหมายการถูกเจาะระบบ และมือมืดไฮเทคนี้ได้มุ่งเป้าโจมตีบัญชีอีเมล์ของกลุ่มนักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนในจีน สหรัฐ และยุโรป
ระลอกแห่งความขัดแย้งระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ค่อยๆ มีมาเป็นลำดับ จากการประชุมโลกร้อนที่โคเปนฮาเกน มาจนถึงเรื่องค่าเงินหยวน และประเด็นกีดกันการค้าอื่นๆ
และจากการที่ ฮิลลารี คลินตัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ได้ออกมาถามหาคำตอบจากรัฐบาลจีน เมื่อวันพฤหัสฯ ฟิลิปส์ คราวลี โฆษกรัฐบาลฯ ก็ได้กล่าวว่า ตัวแทนของสหรัฐฯ ได้เข้าพบกับเจ้าหน้าที่การฑูตจีน เพื่อการนั้นแล้ว
เจ้าหน้าที่ในวอชิงตัน ลังเลที่จะแสดงความเห็นว่า กรณีของกูเกิลจะกระทบต่อความสัมพันธ์ในระดับทวีภาคีอย่างไร
คริส สมิธ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐนิวเจอร์ซี ของพรรครีพับลิกัน กล่าวว่า กูเกิลได้ใจคนจีนนับล้าน และเป็นการพลิกเกมอย่างสิ้นเชิง แต่กูเกิลซึ่งเป็นกิจการไอทีก็คงไม่มีอำนาจจะไปกดดันรัฐบาลจีน ถ้าปราศจากการสนับสนุนของรัฐบาลสหรัฐฯ
สำหรับความเคลื่อนไหวทางกูเกิลจีนนั้น ยังไม่มีอะไรนอกจาก บรรดาพนักงานชาวจีน ซึ่งกำลังจะถูกเลิกจ้าง เพราะบริษัทอาจปิดดำเนินการนั้น ได้รับการปลอบขวัญและแสดงความขอบคุณที่ร่วมงานกันมา ด้วยตั๋วภาพยนตร์ "Avatar" 200 ที่นั่ง ที่กูเกิลเหมาแจกพนักงานทุกคนให้ไปนั่งชม ช่วงพักกลางวัน เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา