xs
xsm
sm
md
lg

จีนหวั่น ยอดเอดส์ชาวรักร่วมเพศฯ พุ่ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วันเอดส์โลก-เด็กนักเรียนจีนในเมืองฮั่นซาน มณฑลอันฮุย แสดงริบบิ้นสีแดง สัญลักษณ์ของกลุ่มช่วยเหลือผู้ป่วยเอดส์ที่ทำกันขึ้นมา โดยกระทรวงสาธารณสุขจีนประมาณการว่า จนถึงปลายปีนี้ จะมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีราว 740,000 คน และมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 48,000 คนในปีนี้ ตามข้อมูลของ UNAIDS(ภาพเอเอฟพี)
เอเอฟพี-จีนออกโรงเตือน เนื่องในวันเอดส์โลก (1 ธ.ค.)ถึงจำนวนผู้ป่วยเอดส์ในกลุ่มชาวรักร่วมเพศ ที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็ว พร้อมสั่งการสาธารณสุขฯ ให้เร่งมือป้องกันฯ

แถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขฯ มีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดี หู จิ่นเทา ออกมาแสดงความคิดเห็น และเรียกร้องชาวจีนไม่ให้มีการเลือกปฏิบัติ กีดกันผู้ติดเชื้อเอชไอวี ผ่านสื่อของรัฐฯ

"การมีเพศสัมพันธุ์ยังคงเป็นสาเหตุหลักของการติดเชื้อฯ ซึ่งมีเพิ่มมากขึ้นอย่างชัดเจน ในกลุ่มรักร่วมเพศฯ" กระทรวงฯ กล่าว

"นี่เป็นสถานการณ์ใหม่ ที่เราต้องให้ความใส่ใจ" จีนไม่เคยมีอัตราผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ มากเช่นประเทศอื่นๆ

แรกเริ่มเดิมทีนั้น ผู้ติดเชื้อกลุ่มแรกๆ ของจีน จะอยู่ในกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติด ชนกลุ่มน้อย โสเภณี และการขายเลือด เนื่องจากใช้วิธีการถ่ายเลือดที่ไม่ถูกสุขอนามัย แต่เมื่อไม่กี่ปีมานี้ การติดเชื้อเริ่มขยายวงเพิ่มออกไปจากกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อกลุ่มเดิมไปยังประชาชนทั่วไปทั่วประเทศ

ทางกระทรวงฯ ได้เร่งให้การศึกษาเกี่ยวกับการมีเพศสัมพันธ์ที่ปลอดภัยและใช้ถุงยางอนามัย

จนถึงปลายเดือน ต.ค.2552นี้ จีนมีผู้ติดเชื้อเอชไอวี/เอดส์ ที่เจ้าหน้าที่ได้บันทึกไว้ 319,877 คน รวมถึงผู้ติดเชื้อฯ ใหม่ 48,000 รายในปีนี้ด้วย ขณะที่มีผู้เสียชีวิตด้วยโรคเอดส์เกือบ 50,000 คนแล้ว

กระทรวงฯ ได้ประมาณการว่า อาจจะมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีในจีน ซึ่งต้องประสบกับความเป็นผู้ถูกสังคมรังเกียจ สูงถึง 740,000 คน อันเป็นสถานการณ์ซึ่งประธานาธิบดี หู ได้กล่าวขึ้นใน กิจกรรมเตือนภัยเอดส์ ที่กรุงปักกิ่ง วันจันทร์ (30 พ.ย.)

ท่าน "ต้องดูแลผู้ป่วยเอดส์และผู้ติดเชื้อเอชไอวี มากขึ้นและอย่างดียิ่งขึ้น พร้อมกับให้การแนะนำต่อสังคมว่าไม่ควรเลือกปฏิบัติกับพวกเขา" ประธานาธิบดีฯ กล่าวกับบรรดาอาสาสมัครป้องกันเอดส์

"เราพอใจกับทัศนคติของท่านผู้นำจีน ในการต่อสู้กับโรคเอดส์" ว่าน หยานไห่ นักกิจกรรมเอดส์ที่มีชื่อเสียงและเป็นประธานของ AIDS Action Project กล่าวกับเอเอฟพี

"แต่เราอยากจะเห็นรัฐบาลเปิดใจให้กับองค์กรพัฒนาเอกชน (เอ็นจีโอ) เพราะการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ของพวกเรายังคงถูกจำกัด เราไม่สามารถหาเงินบริจาคฯ ภายในประเทศและยังถูกจับตามองดูจากเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกด้วย"
กำลังโหลดความคิดเห็น