รอยเตอร์ - ราคากระเทียมในจีนเพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่า ตั้งแต่มีนาคมที่ผ่านมา จนเปรียบเป็นสินทรัพย์ที่สร้างผลกำไรดีที่สุดในปีนี้ แซงหน้าทองคำและหุ้นไปแล้ว สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานวันที่ 26 พ.ย.
ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐศาสตร์ของมอร์แกน สแตนเลย์ อธิบายถึงปรากฎการณ์ราคากระเทียมว่า เรื่องนี้น่าจะเป็นผลจากความเชื่อที่ว่า กระเทียมป้องกันโรคหวัดสายพันธุ์เอ (H1N1) ได้
กระเทียมโด่งดังเป็นข่าวเมื่อหนังสือพิมพ์ไชนาเดลี รายงานในสัปดาห์ก่อนว่า โรงเรียนมัธยมศึกษาในหังโจว เมืองเศรษฐกิจทางตะวันออกของจีน ได้ซื้อกระเทียม 200 กก. และบังคับให้นักเรียนกินพร้อมอาหารเที่ยงทุกวัน เพื่อให้มีสุขภาพดี
จาง ผิง อายุ 74 ปีให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ที่ตลาดผักในกรุงปักกิ่งว่า เขาไม่รู้จักไวรัส H1N1แต่รู้ว่า กระเทียมช่วยป้องกันหวัดได้ “ดูผมสิ ผมไม่เคยเป็นหวัดมาหลายปีแล้ว และปีหนึ่งๆ ผมจะซื้อกระเทียมกินเป็นสิบๆ กิโลฯ ”
บ้างมีการมองไปว่า ราคาที่แปรปรวนนี้ เกิดจากแรงกระทำบางอย่าง
ไชนาบิสซิเนสส์นิวส์ รายงานว่า กลุ่มเหมืองถ่านหินซึ่งทั้งมั่งคั่งร่ำรวยและเป็นนักเก็งกำไรตัวฉกาจ ได้ลงมาเล่นกับราคาในตลาดกระเทียม ด้วยการกักตุนไว้
กระเทียมเป็นหนึ่งในกรณีศึกษาของการประเมินสินทรัพย์ ที่มอร์แกน สแตนเลย์ ได้จัดทำขึ้น และคิดว่าจะถูกหยิบขึ้นมาพูดถึง หลังการปล่อยกู้ของธนาคารเพื่อแก้วิกฤติการเงินโลก โดยจะพบว่า แม้แต่กระเทียมก็นำมาเก็งกำไรกันได้
ในบางพื้นที่ของมณฑลซานตง ราคาขายส่งกระเทียมเพิ่มมากถึง 40 เท่า
“ไม่ว่าตลาดอะไรก็ตาม สภาพคล่องที่มากเกินไป จะนำไปสู่การเก็งกำไร” เจอร์รี่ ลู นักวิเคราะห์ฯ กล่าวในบันทึกงานวิจัยฯ “และตัวอย่างของราคากระเทียมก็แสดงให้เห็นถึงการเก็งกำไรในตลาดสินค้าโภคภัณฑ์”
แต่เหตุสำคัญก็มาจากผู้ปลูกฯ เองด้วย
หนานฟางเดลี อ้างคำพูดของผู้ค้าส่งรายหนึ่งว่า ราคากระเทียมที่ตกต่ำอย่างผิดปกติเมื่อปีที่แล้ว ทำให้เกษตรกรจำนวนมากคิดว่ามันไม่คุ้มที่จะปลูกขายต่อไป เมื่ออุปทานตกลงต่ำกว่าอุปสงค์ ซึ่งเพิ่มขึ้นมาจากทั้งในและนอกประเทศ จึงส่งผลให้ราคาสูงขึ้นมาก
ยี่ เสี่ยนหรง นักวิจัยจาก Chinese Academy of Social Sciences (CASS) หน่วยงานระดับมันสมองของรัฐบาลฯ กล่าวว่าไม่มีอะไรต้องแตกตื่น “ตลาดกระเทียมมีวงจรราคา ซึ่งจะขึ้นไปสักพักเพียงช่วงสั้นๆ และไม่นาน ก็จะตกลงอีกครั้ง”