เอเจนซี-พระราชวังต้องห้ามได้กลายเป็นวังต้องห้ามไปจริงๆสมชื่อในวันอังคารที่ 17 พ.ย. เมื่อรัฐบาลจีนปิดพระราชวังต้องห้ามเพื่อให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามาของสหรัฐอเมริกา เดินชมแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมหมายเลขหนึ่งของกรุงปักกิ่งอย่างเป็นส่วนตัว
โอบามาในเสื้อแจ็คเก็ตหนังสีน้ำตาล เดินชมพระราชวังต้องห้าม ท่ามกลางบรรยากาศสงบว่างเปล่าเย็นยะเยือกภายในพระราชวังต้องห้าม ที่ปกติทุกๆ วัน คลาคล่ำไปด้วยกลุ่มนักท่องเที่ยว
ประมุขแดนพญาอินทรีทัวร์พระราชวังต้องห้ามท่ามกลางกลุ่มเจ้าหน้าที่ รวมทั้งผู้อำนวยการพระราชวังต้องห้าม เจิ้ง ซินเมียว ห้อมล้อม โอบามาหยุดยืนถ่ายภาพที่ลานแห่งแรกที่ไปถึง และก็ต้องหน้าแตก เมื่อ ผอ.เจิ้งบอกว่า “ท่านเดินผิดทาง”
“โอ! ทำไม?” โอบามากล่าว พร้อมหัวเราะ พลางหมุนตัวกลับ ไปยังทิศที่จะไปยังตำหนักไท่เหอ (Hall of Supreme Harmony) ในเขตพระราชฐานชั้นนอก ที่ใช้เป็นที่ว่าราชการและทรงงานขององค์ฮ่องเต้
“สวยงามมาก” โอบามากล่าวชื่นชมพระราชวังต้องห้าม ที่เคยเป็นที่สถิตย์อำนาจสูงสุดของประเทศจีน สร้างขึ้นโดยฮ่องเต้แห่งราชวงศ์หมิง ปีค.ศ. 1406 (พ.ศ. 1949)
โอบามาเดินไปโดยมีกลุ่มเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั้งจีนและสหรัฐฯ ติดตามหนาแน่น โดยไม่ตอบคำถามใดๆ ของกลุ่มผู้สื่อข่าว ที่ตามประกบไปด้วย
“ขอบคุณสำหรับการได้มาเดินชมสถานที่ที่อลังการงดงามเช่นนี้” โอบามา กล่าวกับเจิ้ง พร้อมบอกว่าเขาอยากมาเยือนจีนอีก และจะพาบุตรสาวสองคนมาด้วยคือ มาเรีย และซาช่า
การเที่ยวชมแหล่งท่องเที่ยวอันโด่งดังแห่งพระราชวังต้องห้ามนี้ ก็ไม่ได้คลาดสายตาของประชาชนชาวจีน ที่มาอออยู่ที่ประตูด้านตะวันออก
“เขาจะเข้าใจประวัติศาสตร์จีนด้วยวิธีนี้?!” ติง เชาซุน อายุ 47 ปี พูดขณะนั่งกินอาหารในภัตตาคารใกล้ๆกับแนวรักษาความปลอดภัยที่จัดตั้งขึ้นระหว่างที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯชมพระราชวังต้องห้าม เขากล่าวต่อไปว่า “และการเข้าใจประวัติศาสตร์จีน เขาก็ควรเข้าใจประชาชนจีนด้วย”
หลิว ชวน ชาวปักกิ่งผู้หนึ่ง กล่าวว่า “การเที่ยวชมนี้ มีความหมายมาก” แต่ก็บ่นเสียดายที่ไม่ได้เห็นประธานาธิบดีอเมริกัน “ผมอยากเห็นเขา แต่ก็ไม่สามารถ เนื่องจากเขาไม่ลงจากรถเลย”