เอเอฟพี- วันนี้ (4พ.ย.) ศาลไต้หวันได้มีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์สินในประเทศของอดีตผู้นำสูงสุดแห่งไต้หวัน เฉิน สุยเปี่ยน เพื่อนำมาใช้แทนค่าปรับในโทษฐานความผิดซึ่งอดีตประธานาธิบดีฯได้รับ โฆษกของศาลแขวงไทเปกล่าว
"สินทรัพย์ได้รวมถึงเงินฝากในบัญชีธนาคารภายในประเทศ หุ้น บ้านและที่ดินของครอบครัวนายเฉิน" เฉินหยุน-น่าน โฆษกของศาลแขวงไทเปกล่าวกับเอเอฟพี และปฏิเสธที่จะระบุมูลค่าของทรัพย์สินที่ถูกพิทักษ์ไว้แต่ ไชน่าไทมส์ ในไทเป ประมาณการว่าน่าจะเป็นมูลค่าถึง 500 ล้านเหรียญไต้หวัน (15 ล้านเหรียญสหรัฐ)
เฉิน สุยเปี่ยน ครองอำนาจประธานาธิบดีไต้หวัน 2 เทอม 8 ปี และลงจากอำนาจฯในเดือนพฤษภาคม 2551 เขาถูกกล่าวหายักยอกเงินประมาณ 25 ล้านเหรียญสหรัฐ ต่อมา เฉินยอมรับว่าได้ปลอมแปลงเอกสารเพื่อเรียกเก็บเงินจากรัฐบาล แต่ก็ยังยืนยันว่าเขาใช้เงินเหล่านั้น “ในภารกิจลับทางการทูต” มิใช่เก็บเข้ากระเป๋าส่วนตัว
สำหรับข้อกล่าวหาที่ว่าภรรยาของเขาส่งเงินออกนอกดินแดน 20 ล้านเหรียญสหรัฐนั้น ก็มาจากทุนในโครงการเดียวกัน แต่เธอได้กระทำไปโดยที่เขาไม่รู้
ศาลไต้หวัน ได้ประกาศคำพิพากษาคดีคอรัปชั่นอดีตผู้นำสูงสุดแห่งไต้หวัน นาย เฉิน สุยเปี่ยน ว่ามีความผิดจริงตามข้อกล่าวหาของอัยการ ได้แก่ ยักยอกเงินของรัฐ ใช้ตำแหน่งหน้าที่กอบโกยผลประโยชน์ส่วนตัว, ปลอมแปลงเอกสาร, รับสินบน, และฟอกเงิน เฉินวัย59 ปี และอู๋ ซูเจิน ภรรยาผู้พิการของอดีตประธานาธิบดีเฉิน ได้ถูกศาลในตัดสินลงโทษจำคุกตลอดชีวิตในเดือนกันยายน ปรับ 300 ล้านเหรียญไต้หวัน (9.1 ล้านเหรียญสหรัฐ) และริบสิทธิสาธารณะตลอดชีวิต ในความผิดคล้ายคลึงกันกับสามี ในเวลาเดียวกันเฉินและครอบครัวของเขาถูกปรับกว่า 800 ล้านเหรียญไต้หวัน
อัยการยังได้กล่าวว่า กำลังติดตามนำเงินกว่า20 ล้านเหรียญสหรัฐจากบัญชีธนาคารที่ครอบครัวของเฉินเปิดไว้ในสวิตเซอร์แลนด์กลับคืนมา
เฉินยังคงกล่าวมาตลอดนับจากวันที่โดนจับกุมและนำตัวมาคุกขัง ว่าการดำเนินคดีต่อเขานั้น เป็นการแก้แค้นทางการเมืองของกลุ่มที่ต่อต้านการเคลื่อนไหวแยกตัวเป็นอิสระจากจีน ที่เขาได้ผลักดันระหว่างนั่งเก้าอี้ประธานาธิบดี 8 ปี