เอเอฟพี – ไต้หวันนำตัวอดีตประธานาธิบดี เฉิน สุยเปี่ยน ขึ้นศาลพิจารณาคดีคอร์รัปชั่นวันนี้ (26 มี.ค.) ซึ่งเป็นการพิจารณาข้อหาแรกในหลายข้อหาที่อาจทำให้เขาต้องโทษจำคุกตลอดชีวิต เบื้องต้นเจ้าตัวยืนยันปฏิเสธข้อกล่าวหา พร้อมระบุการพิจารณาคดีดังกล่าวเป็นผลมาจากท่าทีแข็งกร้าวของเขาที่มีต่อจีนใหญ่
เฉิน สุยเปี่ยน อดีตประธานาธิบดีไต้หวันวัย 58 ปี ถูกนำตัวขึ้นศาลกรุงไทเป ในสภาพถูกใส่กุญแจมือ กลายเป็นอดีตประธานาธิบดีคนแรกของเกาะที่ถูกนำตัวขึ้นศาล โดยวันนี้เป็นการพิจารณาคดีรับสินบน ซึ่งเป็นเพียงข้อหาแรกจากหลายข้อหา ได้แก่ ยักยอกเงิน ฟอกเงิน ใช้อำนาจหน้าที่ในทางมิชอบ รวมถึงบังคับข่มขู่ ส่วนวันและเวลาในการพิจารณาข้อกล่าวหาอื่นๆ ของเฉินนั้น ยังไม่ได้กำหนด
ทั้งนี้ การขึ้นศาลครั้งนี้ของเฉินมีขึ้นหลังจากที่ ไช่ หมิงเจี๋ย ผู้ช่วยของ อู๋ ซู่เจิน ภริยาของอดีตผู้นำ ซึ่งถูกกล่าวหาเป็นธุระจัดการให้นักธุรกิจรายหนึ่งติดสินบนให้เฉินและภรรยาเป็นเงิน 400 ล้านเหรียญไต้หวัน (11.42 ล้านเหรียญสหรัฐ) แลกกับการอนุมัติข้อตกลงเกี่ยวกับที่ดิน
“ผมไม่เคยได้ยินเรื่องสัญญาใดๆ จากคุณไช่ทั้งสิ้น ไม่มีสิ่งที่เรียกว่า “ค่านายหน้า” หรือ “สินบน” อะไรทั้งนั้น” เฉินกล่าวต่อศาล
อย่างไรก็ตาม เฉินยอมรับว่า ภรรยาของเขารับเงินมาจากนักธุรกิจที่ชื่อ เลสลี่ กู (กู จ้งเลี่ยง) ประธานบริษัท ไต้หวัน ซีเมนต์ กรุ๊ป ผู้ซึ่งขายที่ดินของเขาให้แก่รัฐบาลของเฉินในราคาที่สูงกว่าราคาตลาดมาก แต่เขากล่าวว่า ภรรยาของเขากระทำการโดยเขาไม่มีส่วนรู้เห็น และกล่าวว่า เงินนั้นเป็นเงินบริจาคทางการเมือง อย่างไรก็ตาม กูจะขึ้นให้การเป็นพยานในวันพฤหัสบดีหน้า
นอกจากปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาแล้ว เฉินยังย้ำว่า เขาถูกกลั่นแกล้งจากรัฐบาลนำโดยประธานาธิบดี หม่า อิงจิ่ว ซึ่งขึ้นปกครองไต้หวันต่อจากเขาเมื่อปีที่แล้ว เนื่องจากอัยการได้ประกาศเริ่มตรวจสอบเขาในคดีคอร์รัปชั่นเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเขาก้าวลงจากตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคมปี 2551 เท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ในการขึ้นศาลพิจารณาคดีก่อนหน้านี้ ภรรยา ลูกชาย และลูกสะใภ้ของเฉินต่างยอมรับสารภาพแล้วว่า ได้ฟอกเงิน และปลอมลายเซ็นจริง แต่ยังปฏิเสธข้อกล่าวหายักยอกเงินของรัฐ ขณะที่เฉินเองก็ยอมรับว่าภรรยาของเขาได้โอนเงินไปต่างประเทศทั้งสิ้น 20 ล้านเหรียญสหรัฐโดยที่เขาไม่รู้เรื่อง