เอเจนซี่-เมื่อวานนี้ (1 พ.ย.) กลุ่มพิทักษ์สิทธิผู้บริโภคในไต้หวันได้ออกแถลงการณ์ว่าจะผลักดันให้มีการลงประชามติคัดค้านการนำเข้าเนื้อวัวติดกระดูกและเครื่องในวัวจากสหรัฐ
หลังจากที่รัฐบาลไต้หวันตัดสินใจผ่อนปรนคำสั่งห้ามนำเข้าเนื้อวัวติดกระดูกและเครื่องในวัวจากสหรัฐ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ได้ก่อให้เกิดกระแสวิจารณ์ เพราะหลายฝ่ายยังคงวิตกเรื่องโรควัวบ้า
โดยหลังมีข่าวสหรัฐพบโรควัวบ้าเมื่อปี 2546 ไต้หวันสั่งห้ามนำเข้าเนื้อวัวจากสหรัฐทั้งหมด ต่อมาได้ผ่อนผันให้นำเข้าได้เฉพาะเนื้อวัวไร้กระดูกเมื่อปี 2549
มูลนิธิผู้บริโภคในไต้หวันผู้ผลักด้นกระแสคัดค้านดังกล่าวฯ แถลงว่า จะเสนอให้จัดการลงประชามติเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดการเจรจาเรื่องข้อตกลงนำเข้าเนื้อวัวกับสหรัฐ ซึ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตผู้บริโภค ด้วยการรวบรวมรายชื่อผู้สนับสนุนให้ได้ไม่ต่ำกว่า 860,000 คน ตามกฎหมายว่าด้วยการลงประชามติ และขอให้กลุ่มนอกภาครัฐอื่น ๆ ร่วมมือกับมูลนิธิผลักดันเรื่องนี้
ทั้งนี้ นักสังเกตุการณ์วิเคราะห์ว่า สหรัฐอาจใช้เรื่องจำหน่ายฝูงบินขับไล่เอฟ16 และการทำกรอบข้อตกลงการค้าการลงทุน เป็นเครื่องมือต่อรองในการเจรจาเรื่องเนื้อวัวกับไต้หวัน