ถ้าโลกจดจำพลังอำนาจภาวะผู้นำในภาพยนตร์และภาพถ่ายนาซีของเลนิ ไรเฟนสตาห์ล (Leni Riefenstahl) ช่างภาพและผู้กำกับภาพยนตร์สารคดีชาวเยอรมัน กับผลงานภาพถ่ายใบหน้าของ เช เกวาราที่ชื่อ Guerrillero Heroico ซึ่งแปลเป็นภาษาไทยว่า วีรบุรุษนักต่อสู้จรยุทธ "Heroic Guerrilla fighter" ของอัลแบร์โต กอร์ดา (Alberto Korda) ชาวคิวบาได้แล้ว
โลกก็ต้องยอมรับว่าหนึ่งในบันทึกประวัติศาสตร์ที่ทรงพลังและถูกนำมาใช้ในงานมวลชนมากที่สุดอีกภาพหนึ่งในโลก ย่อมได้แก่ภาพของเหมา เจ๋อตง ในวันสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีน (Founding ceremony of China, Oct 1, 1949) ของโหว ปอ (侯波)
ซึ่งที่มาที่ไปอันทำให้เธอเป็นผู้บันทึกภาพประวัติศาสตร์นั้น โหว ปอเคยบอกว่าเหมือนเป็นเพราะฟ้าลิขิต เนื่องจากในเวลานั้นช่างภาพของกองทัพที่เก่ง ๆ ส่วนใหญ่ยังอยู่นอกกรุงปักกิ่ง ไม่สามารถเข้ามาร่วมพิธีได้ทัน เธอซึ่งมีอายุเพียง 25 ปี และเริ่มหัดใช้กล้องไม่ถึง 5 ปี จึงได้รับหน้าที่นี้
ในวันพิธีนั้น เหมา กับผู้นำทั้งหมดยืนอยู่เหนือประตูเทียนอันเหมิน เบื้องหน้าธงชาติจีนและกองทหารกับประชาชนผู้ร่วมเป็นสักขีพยานกว่า 3 แสนคน
โหวจดจำห้วงขณะนั้นติดตา ตอนนั้นเป็นเวลาเที่ยง เหมา เจ๋อตงผู้นำสูงสุดของประเทศซึ่งมีประชากรในเวลานั้นมากถึงหนึ่งในสี่ของโลก (475ล้านคน) ก้าวมาหน้าระเบียงอ่านคำประกาศประวัติศาสตร์ผ่านไมโครโฟน โหว ยกกล้อง Rolleiflex ที่บรรจุม้วนฟิล์มซึ่งพอจะถ่ายได้ 12 ภาพ หันมาที่เหมา แต่มุมภาพนั้นก็ยังไม่พอดี เพราะความที่พื้นที่จำกัด และเลนส์กล้องก็ไม่กว้างพอ ดังนั้นเพื่อแน่ใจว่าไม่พลาดวินาทีสำคัญ เธอก้มมองภาพเหมาที่สะท้อนเงาผ่านเลนส์และพยายามเอนตัวล้ำออกไปนอกราวระเบียง โดยลืมนึกถึงอันตราย
เหตุการณ์ตรงนี้ โหวเล่าว่า เธอเพิ่งจะรู้ตัวว่ามันเสี่ยง ก็ตอนมีใครคนหนึ่งมาฉุดรั้งตัวเธอไว้ไม่ให้พลัดตกระเบียงไป
"ฉันเหลียวไปดูมือที่มาช่วยชีวิตไว้ตอนนั้น...เป็นมือของโจว เอินไหล ผู้นำคนสำคัญอีกคนของพรรคฯ"
ลำพังชีวิตของโหว ปอ เองนั้น ก็อาจจะนับเป็นตำนานได้อีกเรื่องหนึ่ง ซึ่งเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2467 เธอเกิดมาท่ามกลางกลียุค แผ่นดินตกอยู่ใต้การปกครองของเหล่าขุนศึกขุนนางทรราช และมีสภาพดั่งเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรดินิยม ชีวิตแร้นแค้นเหมือนตายทั้งเป็น กำพร้าพ่อแม่แต่เล็ก ได้อาศัยอยู่กับยายที่ตาบอดในอำเภอเซี่ย มณฑลซันซี
ย่างสู่วัยรุ่น แม้ไม่เข้าใจอุดมการณ์คอมมิวนิสต์มากนัก แต่ความรักชาติทำให้เธอเข้าร่วมเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์เมื่ออายุ 14 ปี และถูกส่งไปรับการอบรมฝึกฝนที่กองทัพลู่ที่ 8 ในซีอาน (the Eighth Route Army Xi'an)
ฤดูหนาวปีนั้นเอง ก็ได้ไปประจำตำแหน่งที่หยางอัน เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยม และศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยหยียนอัน จนกระทั่งสำเร็จการศึกษา ได้ทำงานเป็นพยาบาลและครู
โหว เริ่มจับกล้องถ่ายรูปเมื่ออายุประมาณ 20 ปี โดยเรียนรู้จากสามี สี่ว์ เซียวปิง (徐肖冰)ซึ่งเป็นช่างภาพประจำกองทัพฯ และรับหน้าที่สำคัญในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2492 ซึ่งทำให้เธอเด็กกำพร้าไร้ตัวตน ที่เพิ่งจะมีชื่อ แซ่ ก็ตอนอายุ 14 ปี กลายเป็นช่างภาพประจำตัวของเหมา เจ๋อตง กับผู้นำคนอื่นๆ ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตลอด 12 ปีต่อมา
โหว ปอ นับเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีความสำคัญต่อการสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านภาพถ่ายจำนวนมาก ที่เธอรับผิดชอบโดยตรงระหว่างทำงานเป็นช่างภาพให้รัฐบาลกลาง ในช่วงปี พ.ศ. 2492 – 2504 ซึ่งภาพจำนวนมากของเหมา เจ๋อตง และผู้นำคนอื่นๆ ล้วนเป็นฝีมือของเธอ โดยเฉพาะภาพถ่ายของเหมา ซึ่งเปิดเผยต่อสาธารณะจำนวน 700 รูปนั้น เป็นภาพที่เธอถ่ายกว่า 400 ภาพ
โหว ปอคงจะบันทึกภาพผู้นำได้อีกมากมายกว่านี้ หากชีวิตของเธอจะไม่พบกับความอยุติธรรม และประสบชะตากรรมเช่นเดียวกับประเทศชาติระหว่างช่วงเวลา 10 ปีของการปฎิวัติวัฒนธรรม พ.ศ.2509 -2519 (1966-1976)
ในหลายโอกาสของการทำงานนั้น บ่อยครั้งที่เธอแสดงความรังเกียจมาดามเจียง ชิงออกมาตรงๆ โดยไม่ปิดบัง เธอปฏิเสธจะถ่ายภาพของภริยาท่านผู้นำคนนี้ จนบางครั้ง เหมา เจ๋อตง เองต้องเอ่ยปากวานขอเพื่อเห็นแก่เขา
มาดามเจียง ชิงเอง ก็คิดกำจัด โหว ปอ เช่นกัน จนเมื่อได้โอกาสจึงใส่ร้าย โหว ปอ ว่า ไม่ใช่สมาชิกพรรคฯ ที่แท้จริง และส่งตัวเธอไปทำงานตรากตรำในค่ายแรงงานเป็นเวลาตลอด 10 ปี จนกระทั่งหมดยุคของแก๊งสี่คน และสิ้นสุดการปฏิวัติวัฒนธรรม ในปีพ.ศ. 2519 (1976)
ในวันที่สาธารณรัฐประชาชนจีน ฉลองการปกครองของพรรคคอมมิวนิสต์ ปีที่ 60 โหว ปอ ซึ่งอายุ 85 ปี ยังคงมีสุขภาพแข็งแรง และอยู่ร่วมชีวิตกับ สี่ว์ เซียวปิง สามี ซึ่งอายุ 93 ปี เลี้ยงหลานสาวตัวเล็กๆ แม้เธอจะมีปัญหาในการฟัง ต้องใช้เครื่องช่วยได้ยินตลอดเวลา แต่สำหรับภาพและเสียงของวันประวัติศาสตร์นั้น ยังคงก้องอยู่ในใจเสมอ และกังวานจนถึงวันนี้ วันที่ฟ้าดินลากเส้นชีวิตให้เธอได้อยู่จนเห็นประเทศจีนลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคง
โหว ปอในวัยชรา บอกว่า “พรรคคอมมิวนิสต์ ไม่เพียงให้ชีวิตกับฉัน แต่ยังให้ความหมายคุณค่ากับชีวิตว่าจะอยู่เพื่ออะไรดัวย ฉันรู้ว่า ท่านประธานเหมา มีข้อผิดพลาดอยู่หลายเรื่อง แต่เมื่อพิจารณาเจตนาของท่านแล้ว เรื่องเหล่านั้นล้วนเป็นข้อบกพร่องอันเป็นปกติวิสัยที่ปุถุชนทั่วไปพึงเข้าใจได้”
อ้างอิง
1.Clifford Coonan, "Snapshots from Mao's Comrade in Revolution," The Independent, October 1, 2009
2."Intimate moments with a great man", China Daily, April 5, 2004
3."Veteran Photographer Hou Bo Honored", www.womenofchina.cn
ชม ภาพประวัติศาศาสตร์ บันทึกชีวิตท่านประธานเหมา เจ๋อตง ฝีมือตากล้องหญิง “โหว ปอ”