รอยเตอร์ – ผลกำไรบริษัทในเครือ Yum Brands Inc. ในไตรมาส 3 พุ่ง 15 เปอร์เซ็นต์ ผลพวงจากการสนองตอบจากตลาดในจีน คาดผลกำไรบริษัทตลอดทั้งปีจะสูงกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้
แถลงการณ์ของ Yum Brands Inc. ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของเชนฟาสต์ฟู้ดชื่อดัง อย่างเช่น ทาโค เบลล์, พิซซา ฮัท และเคนตัคกี้ ระบุว่า การเติบโตของบริษัทในไตรมาสที่ 3 นี้มาจากประเทศจีนคิดเป็น 32 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในสหรัฐฯ มีการเติบโต 18 เปอร์เซ็นต์
นายแจ๊ค รุสโซ นักวิเคราะห์จาก Edward Jones เผยว่า การเติบโตของเชนฟาสต์ฟู้ดและร้านอาหารนั้น เป็นผลพวงมาจากราคาอาหารที่ลดต่ำลง และหลายบริษัทได้ลดรายจ่ายด้านการบริหารจัดการ
สรุปผลประกอบการในไตรมาส 3 พบว่า รายได้สุทธิของบริษัท Yum มีถึง 334 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มจากรายได้ช่วงเดียวกันในปีที่แล้วที่มีเพียง 282 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
ส่งผลให้คาดการณ์การเติบโตของบริษัทตลอดทั้งปี 2552 จะเพิ่มเป็น 2.14 เหรียญต่อหุ้น จากที่เคยคาดการณ์ไว้ที่ 2.13 เหรีญต่อหุ้น
ขณะที่ผลประกอบการของบริษัทในเครือ Yum Brands Inc.ในตลาดสหรัฐฯ สวนกระแสกับจีน กล่าวคือ ยอดขายของพิซซ่า ฮัท ลดลง 13 เปอร์เซ็นต์ และกว่าครึ่งของผลกำไรจากเชนเคนตัคกี้มาจากยอดขายในจีนและตลาดต่างประเทศ
นักลงทุนต่างมองว่า ตลาดนอกประเทศเหล่านี้จะเป็นแหล่งที่มาของการเติบโตของเชนเคนตัคกี้ในอนาคต