เอเอฟพี – จากผลการสำรวจผลประกอบการบริษัท 500 อันดับของจีนประจำปี 2551 พบบริษัทจีนทำผลกำไรดีกว่าบริษัทสหรัฐฯ เป็นครั้งแรก สะท้อนวิกฤตการเงินโลกส่งผลกระทบหนักหน่วงในแดนอินทรี
สมาพันธุ์ธุรกิจจีน ไชน่า เอ็นเตอร์ไพรส์ คอนเฟเดอเรชั่น (ซีอีซี) ผู้ดำเนินการจัดอันดับบริษัทจีนตั้งแต่ปี 2545 ซึ่งคล้ายกับการจัดอันดับท็อป 500 ของฟอร์จูน ได้เปิดเผยผลการจัดอันดับ 500 บริษัทจีนปี 2551 ผลปรากฎว่า ปีที่แล้วบริษัทจีนทำผลประกอบการได้ยอดเยี่ยมมีกำไรสุทธิรวมทั้งสิ้น 171,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่บริษัทสหรัฐฯ มีกำไรเพียง 99,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
จากผลสำรวจพบว่า กำไรของบริษัทจีนเมื่อปี 2551 ถึงแม้จะลดลงร้อยละ 13.2 เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว แต่ยังมีผลกำไรดีกว่าบริษัท 500 อันดับของฟอร์จูนที่ทำกำไรลดลงร้อยละ 85
สำหรับบริษัทที่อยู่อันดับ 1 ในการจัดอันดับของซีอีซีนั้น ได้แก่ วิสาหกิจรัฐยักษ์ใหญ่ “ซิโนเปค” ผู้กลั่นน้ำมันรายใหญ่ที่สุดในเอเชีย ซึ่งมีรายได้ 1.5 ล้านล้านหยวนในปี 2551 นอกจากนี้ บริษัทยังอยู่ในอันดับ 9 ของการจัดอันดับของฟอร์จูน โกลบอล 500 ด้วย
ส่วนอันดับที่ 2, 3 และ 4 ได้แก่ บริษัทผลิตน้ำมันยักษ์ใหญ่ของจีน ไชน่า เนชั่นแนล ปิโตรเลียม (ซีเอ็นพีซี) มีผลประกอบการ 1.3 ล้านล้านหยวน, บริษัทสเต็ท กริด คอร์ปอเรชั่น ออฟ ไชน่า มีรายได้ 1.1 ล้านล้านหยวน และธนาคารอุตสาหกรรมและการพาณิชย์ ผู้ให้กู้รายใหญ่ที่สุดของจีน มีรายได้ 490,000 ล้านหยวน ทั้งนี้บริษัท 34 อันดับแรกนั้นเป็นบริษัทของรัฐบาล
หวัง จี้หมิง รองประธานของซีอีซีเปิดเผยว่า ผลประกอบการของบริษัท 500 อันดับของจีนในปี 2551 สะท้อนว่า วิกฤตการเงินส่งผลกระทบต่อบริษัทในประเทศเอเชียน้อยกว่าบริษัทสหรัฐฯ และประเทศอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม หวังเสริมว่า เขายังไม่เห็นสัญญาณการพัฒนาทางด้านแรงแข่งขันที่สำคัญของบริษัทจีน
“บริษัทจีนได้รับการส่งเสริมทางนโยบายและสิ่งแวดล้อมของตลาดภายในประเทศ” หวังกล่าว พร้อมระบุ “แต่เมื่อเทียบกับบริษัทชั้นแนวหน้าของโลก บริษัทจีนยังล้าหลังในแง่ของการจัดสรรทรัพยากร, นวัตกรรม, การเจาะตลาดต่างประเทศ, รูปแบบธุรกิจ และวัฒนธรรมองค์กร”