เอเยนซี – ทางการจีนเปิดเผยสถิติการทำแท้งในประเทศสูงถึงปีละ 13 ล้านคน ส่วนมากเป็นหญิงโสด อายุน้อยและไม่รู้วิธีการคุมกำเนิด ขณะที่นโยบายลูกคนเดียวเป็นประเด็นอ่อนไหวที่นำไปสู่การทำแท้ง
หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ สื่อภาษาอังกฤษของรัฐบาลจีนประเมินว่า ตัวเลขการทำแท้งที่แท้จริงอาจสูงรายงานที่ระบุว่าจำนวน 13 ล้านคน เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวเป็นการทำแท้งในโรงพยาบาล แต่ยังมีการทำแท้งอีกเป็นจำนวนมากตามคลินิกเถื่อนในต่างจังหวัด นอกจากนี้ในรายงานระบุว่า แต่ละปีมีการจำหน่ายยาทำแท้งในจีนราว 10 ล้านเม็ด
ด้านอู๋ ซังชุนเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการวางแผนครอบครัวและประชากรแห่งชาติ กล่าวว่า สตรีเกือบครึ่งหนึ่งในจีนที่ต้องการทำแท้งไม่เคยใช้วิธีการคุมกำเนิดมาก่อน และ 62 เปอร์เซ็นต์ ของผู้หญิงที่ทำแท้งล้วนเป็นหญิงโสด ที่มีอายุระหว่าง 20- 29 ปี โดยในรายงานกล่าวว่า การทำแท้งขยายเป็นวงกว้างและกลายเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม ในรายงานไม่ระบุว่าตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นหรือไม่ เนื่องจากไม่มีสถิติเปรียบเทียบเป็นรายปี แต่ยอมรับว่าการที่จะลดสถิติการทำแท้ง เป็นงานที่ยากและท้าทาย
ลี่ อิง นักวิชาการของมหาวิทยาลัยปักกิ่งกล่าวว่า ต้องปรับปรุงการเรียนการสอนเพศศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ขณะเดียวกันผู้ปกครองก็ควรให้ความรู้เรื่องเพศกับลูกมากขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนใช้มาตรการคุมกำเนิดอย่างเข้มงวดตั้งแต่ปี 2513(1970) เพื่อจำกัดให้แต่ละครอบครัวมีลูกเพียงคนเดียว โดยสนับสนุนหญิงแต่งงานแล้วให้คุมกำเนิดด้วยวิธีการต่างๆ อย่างกว้างขวาง เพื่อป้องกันจำนวนประชากรที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และอาจกระทบต่อการใช้ทรัพยากรในประเทศ แต่นโยบายดังกล่าวกลับมองข้ามการรณรงค์การคุมกำเนิดในหญิงที่ไม่แต่งงาน ขณะที่ทัศนคติในเรื่องเพศของสังคมจีนเปิดกว้างมากขึ้น
หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่ สื่อภาษาอังกฤษของรัฐบาลจีนประเมินว่า ตัวเลขการทำแท้งที่แท้จริงอาจสูงรายงานที่ระบุว่าจำนวน 13 ล้านคน เนื่องจากตัวเลขดังกล่าวเป็นการทำแท้งในโรงพยาบาล แต่ยังมีการทำแท้งอีกเป็นจำนวนมากตามคลินิกเถื่อนในต่างจังหวัด นอกจากนี้ในรายงานระบุว่า แต่ละปีมีการจำหน่ายยาทำแท้งในจีนราว 10 ล้านเม็ด
ด้านอู๋ ซังชุนเจ้าหน้าที่จากคณะกรรมการวางแผนครอบครัวและประชากรแห่งชาติ กล่าวว่า สตรีเกือบครึ่งหนึ่งในจีนที่ต้องการทำแท้งไม่เคยใช้วิธีการคุมกำเนิดมาก่อน และ 62 เปอร์เซ็นต์ ของผู้หญิงที่ทำแท้งล้วนเป็นหญิงโสด ที่มีอายุระหว่าง 20- 29 ปี โดยในรายงานกล่าวว่า การทำแท้งขยายเป็นวงกว้างและกลายเป็นสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง อย่างไรก็ตาม ในรายงานไม่ระบุว่าตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นหรือไม่ เนื่องจากไม่มีสถิติเปรียบเทียบเป็นรายปี แต่ยอมรับว่าการที่จะลดสถิติการทำแท้ง เป็นงานที่ยากและท้าทาย
ลี่ อิง นักวิชาการของมหาวิทยาลัยปักกิ่งกล่าวว่า ต้องปรับปรุงการเรียนการสอนเพศศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย ขณะเดียวกันผู้ปกครองก็ควรให้ความรู้เรื่องเพศกับลูกมากขึ้น
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนใช้มาตรการคุมกำเนิดอย่างเข้มงวดตั้งแต่ปี 2513(1970) เพื่อจำกัดให้แต่ละครอบครัวมีลูกเพียงคนเดียว โดยสนับสนุนหญิงแต่งงานแล้วให้คุมกำเนิดด้วยวิธีการต่างๆ อย่างกว้างขวาง เพื่อป้องกันจำนวนประชากรที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และอาจกระทบต่อการใช้ทรัพยากรในประเทศ แต่นโยบายดังกล่าวกลับมองข้ามการรณรงค์การคุมกำเนิดในหญิงที่ไม่แต่งงาน ขณะที่ทัศนคติในเรื่องเพศของสังคมจีนเปิดกว้างมากขึ้น