เอเจนซี - ทางการซินเจียงยอมรับตำรวจยิงผู้ชุมนุมอุยกูร์ดับ 12 ศพ อ้างยิงปืนขึ้นฟ้าแล้วแต่ไม่ได้ผล พร้อมเปิดเผยสถานการณ์ตอนนี้กำลังเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่ชาวมุสลิมสามารถเดินทางไปสวดมนต์ที่สุเหร่าได้ตามเดิมแล้ว
เนอร์ เบครี ประธานเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ ซินเจียง แถลงข่าวต่อผู้สื่อข่าวต่างชาติเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (18 ก.ค.) ว่า ซินเจียงมั่นใจว่าจะขจัดผลกระทบจากเหตุจลาจลเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมที่ผ่านมาได้ “ภายในเวลาอันสั้น”
พร้อมเปิดเผยว่า ในคืนวันที่ 5 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองอูหลู่มู่ฉี ซึ่งเป็นเมืองเอกของซินเจียง ได้ยิงผู้ก่อความไม่สงบไปทั้งสิ้น 12 ราย หลังจากยิงปืนขึ้นฟ้าแล้วแต่ไม่เป็นผล ผู้ก่อจลาจล 3 รายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ ส่วนอีก 9 รายทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในภายหลัง
“ช่วงที่เกิดจลาจล เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามควบคุมสถานการณ์เอาไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่หลายคนก็ได้รับบาดเจ็บ ยิ่งกว่านั้นยังมีเจ้าหน้าที่วัย 31 ปี เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่จากการถูกผู้ประท้วงขว้างก้อนหินใส่ศีรษะด้วย” เนอร์ เบครีกล่าว
นอกจากนี้เขายังระบุว่า มีประชาชนผู้บริสุทธิ์อีกจำนวนมากได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจากการถูกผู้ก่อจลาจลขว้างปาอิฐ ก้อนหิน และท่อนเหล็กใส่ ผู้ประท้วงบางคนยังใช้มีดเป็นอาวุธด้วย
ตามตัวเลขล่าสุดของทางการระบุว่า จากการจลาจลเมื่อต้นเดือนกรกฎาคมนั้นส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 197 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านผู้บริสุทธิ์
เนอร์ เบครี ยอมรับว่า พวกเขาไม่เคยนึกมาก่อนว่าการเดินขบวนของนักเรียนจะพัฒนาจนกลายเป็นความรุนแรงที่น่ากลัวแบบนี้ได้
เขากล่าวว่า ทางการท้องถิ่นได้ดำเนินมาตรการป้องกันเหตุด่วนเหตุร้ายอย่างเหมาะสมทันทีที่พวกเขาได้รับรายงานเกี่ยวกับแผนการของนักศึกษา “แต่เรานึกไม่ถึงว่า กลุ่มผู้ประท้วงจะโหดเหี้ยมขนาดนี้” โดยเบครียกตัวอย่างที่ผู้ประท้วงไปทำร้ายผู้บริสุทธิตามตรอกซอกซอย
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ ณ ตอนนี้ เบครีระบุว่า มีเสถียรภาพมากขึ้น ส่วนสัญญาณอินเตอร์เน็ตก็จะเปิดให้ใช้ในเร็วๆ นี้ โดยเบครีอธิบายถึงสาเหตุที่ต้องตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ตก่อนหน้านี้ว่า “อินเตอร์เน็ตและข้อความทางโทรศัพท์มือถือเป็นช่องทางการติดต่อสื่อสารหลักของผู้ประท้วง ดังนั้นรัฐบาลจึงจำเป็นต้องตัดสัญญาณเพื่อควบคุมสถานการณ์”
ส่วนสุเหร่าใกล้สถานที่ก่อความไม่สงบ ซึ่งทางการสั่งปิดไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และขอให้ประชาชนอยู่สวดมนต์กันที่บ้านเป็นการชั่วคราวเพื่อความปลอดภัยนั้น ล่าสุดเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (17 ก.ค.) ซึ่งเป็นวันสวดมนต์ใหญ่ประจำสัปดาห์ ทางการได้เปิดให้ชาวมุสลิมเข้าไปขอพรจากพระเจ้า อันเป็นวัตรปฏิบัติสำคัญทุกวันศุกร์ได้ตามปกติ เนื่องจากอูหลู่มู่ฉีเริ่มเข้าสู่สถานการณ์ปกติแล้ว ตามที่เจ้าหน้าที่ซึ่งรับผิดชอบหน่วยงานเกี่ยวกับศาสนาของทางการซินเจียงกล่าว
ทั้งนี้ โดยปกติแล้วชาวมุสลิมจะสวดมนต์วันละ 5 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่กระทำที่บ้าน ส่วนวันศุกร์นั้น พวกเขามักจะมาชุมนุมสวดมนต์กันที่สุเหร่า
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าสุเหร่าจะเปิดตามปกติแล้ว แต่อิหม่ามก็ยังแนะนำให้ชาวมุสลิมทำวัตรสวดมนต์ที่บ้าน “ตามหลักศาสนาระบุไว้ว่า ชาวมุสลิมสามารถประกอบกิจทางศาสนาในวันศุกร์ที่บ้านได้ ไม่จำเป็นต้องมาที่สุเหร่าหากมีสงคราม สถานการณ์ไม่สงบ หรือสมาชิกครอบครัวเจ็บป่วย” อับดูซูเคอร์ อิหม่ามจากสุเหร่าไบดากล่าว