“อนุกรรมการสอบเหตุสลายม็อบดินแดง” รุมจวก “ผกก.ดินแดง” เหตุไม่สามารถนำตัวผู้ชุมนุมที่สูญหาย 2 คนมาชี้แจงได้ ขู่จะทำหนังสือถึงต้นสังกัด ฐานละเว้นปฏิบัติหน้าที่พร้อมจี้เร่งหาตัวมา ขณะที่ 2 หางแดง อ้างร่วมชุมนุมโดยสงบแต่กลับถูกทหารทำงานได้รับบาดเจ็บ
วันนี้ (2 มิ.ย.) ที่รัฐสภา คณะอนุกรรมการตรวจสอบเหตุการณ์การชุมนุมเขตสามเหลี่ยมดินแดง ที่มี พล.ต.ต.สุเทพ สุขสงวน ส.ว.สรรหาเป็นประธาน โดยที่ประชุมโดยได้เชิญ พล.ต.อ.ชาตรี กาญจนกันติ ผู้กำกับ สน.ดินแดง พร้อมด้วยนายไสว ทองอ้ม และนายสนอง พานทอง ผู้ได้บาดเจ็บในเหตุการณ์สลายการชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดง มาชี้แจงข้อมูล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อนุกรรมการฯ ได้ตั้งข้อสังเกตในประเด็นการเข้าจับกุมผู้ชุมนุมว่าเป็นการใช้ประมวลกฎหมายพิจารณาคดีความอาญา หรือเป็นไปตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และการดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมายหรือไม่ ซึ่งไม่มีข้อสรุปในเรื่องนี้ ซึ่ง พ.ต.อ.ชาตรี กล่าวว่า ในวันที่เกิดเหตุตนไม่ได้เป็นผู้เข้าจับกุม แต่เป็นเพียงผู้รวบรวมเหตุการณ์ จึงอยากให้อนุกรรมการฯ ไปสอบถามรายละเอียดกับผู้ที่บันทึกเหตุการณ์ให้เข้ามาชี้แจง เพราะหากตนชี้แจงไปเกรงว่าข้อมูลจะคาดเคลื่อน
นายไสวกล่าวว่า ได้เข้าร่วมชุมนุมกับ นปช.ที่ทำเนียบรัฐบาลตั้งแต่วัน 12 เม.ย. เพราะสนใจ อยากรู้อยากเห็น จนกระทั่งมีคนชักชวนให้ไปชุมนุมที่สามเหลี่ยมดินแดง ตนก็ได้ตามไป ซึ่งเมื่อไปถึงเป็นเวลา 02.00 น.ของวันที่ 13 เม.ย. รู้สึกง่วงมากจึงหลับไป จนกระทั่งเวลา 04.00 น.ได้ยืนเสียงปืนดังขึ้นจึงตื่นขึ้นมา และเห็นทหารเดินเรียงแถวหน้ากระดานยิงปืนขึ้นฟ้าเต็มถนนห่างจากตนประมาณ 30 เมตร ซึ่งตนกำลังจะวิ่งหนี แต่มีอะไรดลใจให้หันกลับไปมองจึงถูกยิงเข้าที่ราวนมซ้าย ทะลุแขนซ้าย ซึ่งตนก็สลบไป มารู้ตัวอีกทีเมื่อวันที่ 15 เม.ย. ที่โรงพยาบาลราชวิถี ทั้งนี้ ตนยืนยันว่าไม่ได้พกพาอาวุธใดๆ เข้าไปในที่ชุมนุมเลย และไม่เคยต้องการให้เกิดความรุนแรงใดๆ ขึ้น และขั้นตอนการสลายการชุมนุมก็ไม่ได้มีการประกาศให้ทราบก่อนแต่อย่างใด ยืนยัน 100% ว่ากระสุนที่ยิงออกมาโดนตนนั้นมาจากแถวทหารแน่นอน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความช่วยเหลือจากจากกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นเช็คมูลค่า 6 หมื่นบาท
ด้าน นายสนอง กล่าวว่า ตนเป็นช่างซ่อมรถ ในอู่ย่านสามเหลี่ยมดินแดง เมื่อทราบเหตุการณ์สลายการชุมนุมก็ได้เข้าไปดูด้วยความสนใจ เพราะไม่คิดว่าจะเกิดเหตุการณ์รุนแรง เพราะที่ผ่านมาเมื่อมีการประกาศ พ.ร.ก.ก็ไม่เคยมีเหตุรุนแรงแต่อย่างใด ทั้งนี้ ตนถูกยิงเข้าที่หัวเข่า และถูกควบคุมตัวเข้าไปใน ร.1 พัน 1 ร.อ. และมีทหารให้ยาพาราเซตามอลมา 4 เม็ด หลังจากนั้นก็มีคนเสื้อแดงถูกจับเข้ามาสมทบอีกหลายคน จนกระทั่งใกล้เช้ามีนายทหารสัญญาบัตรนายหนึ่งเห็นอาการตนไม่ไหว จึงนำส่งโรงพยาบาลทหารผ่านศึก ซึ่งขณะรักษาตัวอยู่ก็ถูกคุกคามเพราะมีชายหัวเกรียนลักษณะคล้ายทหาร คอยติดตามตนอยู่ตลอดเวลา
ด้านนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญากุล ส.ส.แพร่พรรคเพื่อไทย ได้ตั้งคำถามกับ พ.ต.อ. ชาตรี ถึงภาพผู้ชุมนุมที่ถูกมัดมือไพร่หลัง และผู้ชุมนุมที่ถูกเจ้าหน้าที่รุมทำร้าย ซึ่งอยากให้ทั้ง 2 คน ได้เข้าชี้แจงกับอนุกรรมการด้วย ถ้าตำรวจไม่สามารถให้ความเป็นธรรม และถ้าไม่สามารถนำรูปภาพและนำตัวผู้ชุมนุม 2 คนที่สูญหายกลับมาได้ ซึ่งตนจะทำหนังสือถึงต้นสังกัด เพราะอาจจะเข้าข่ายละเว้นการปฎิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ซึ่งประธานในที่ประชุมได้ขอให้ พล.ต.ต.ชาตรีไปประสาน เพื่อนำมาชี้แจงต่อนุกรรมการในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ด้วย