เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีจีนนายเวิน เจียเป่า มีคำสั่งให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นเร่งหามาตรการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ทางภาคใต้ หลังจากประชาชนกว่า 150,000 คนต้องถูกอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องตั้งแต่วันศุกร์ที่ผ่านมา
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนจำนวน 7,500 คน ออกจากพื้นที่ด้านล่างอ่างเก็บน้ำขาหม่า ในเขตปกครองตนเองกว่างซี(กวางสี) ซึ่งคนงานกำลังเร่งซ่อมแซมทำนบกั้นน้ำที่ใกล้จะปริแตก สาเหตุจากอิทธิพลของฝนที่ตกหนักที่สุดในรอบหลายปี
แม่น้ำหลายสายเอ่อล้นตลิ่ง จนทำให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทางภาคใต้ของจีน ขณะที่ประชาชนจำนวน 47,000 คน ที่เมืองหรงสุ่ย เขตปกครองตนเองกว่างซีก็ถูกอพยพออกจากพื้นที่ด้วยเช่นกัน หลังจากแม่น้ำหรง เอ่อล้นตลิ่งท่วมพื้นที่เพาะปลูกและสร้างความเสียหายต่อบ้านเรือนของประชาชน
ด้านนายกรัฐมนตรีเวิน เจียเป่าของจีน มีคำสั่งในวันเสาร์(4ก.ค.) ให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง เร่งหามาตรการป้องกันน้ำท่วมโดยเร็ว เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
อย่างไรก็ตาม รายงานของทางการจีนเมื่อวันศุกร์(3ก.ค.) ระบุว่าอิทธิพลของฝนที่กระหน่ำลงมาอย่างต่อเนื่องในมณฑลเจียงซี ,มณฑลฝูเจี้ยน และกว่างซี เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 13 คน สูญหาย 8 คน และในวันพฤหัสบดีก็มีประชาชนจำนวน 11 คน ถูกประกาศว่าเสียชีวิต ส่วนผู้ประสพภัยขณะนี้มีจำนวนกว่า 100,000 คนแล้ว
สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวี รายงานว่า ระดับน้ำของแม่น้ำบางสายในเขตปกครองตนเองกว่างซี แตะระดับสูงสุดนับแต่ปี 2541 ซึ่งเป็นช่วงที่ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วมหนักที่สุดในรอบกว่า 100 ปี และทำให้มีผู้เสียชีวิตทั่วประเทศ กว่า 3,600 คน
ข้อมูลของสำนักงานด้านอุทกภัยของทางการจีน ระบุว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีผู้เสียชีวิต 95 คน และสูญหายอีก 21 คน จากอุทกภัยทั่วประเทศ ทั้งนี้พื้นที่ภาคใต้ และภาคกลางของจีนมักเผชิญน้ำท่วมใหญ่ในฤดูฝนประจำปี ซึ่งในแต่ละปีทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก