นายเวิน เจียเป่า นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน วัย 66 ปี ได้ออกมาประกาศในที่ประชุมสมัชชาประชาชนแห่งชาติ ในกรุงปักกิ่ง โดยยืนยันว่า รัฐบาลจีนจะเพิ่มการลงทุนในปีนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังชะลอตัว
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลจีนซึ่งเพิ่งจะทุ่มงบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไป 130,000 ล้านหยวน ในไตรมาสนี้ กำลังเตรียมอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 3 ของโลก หลังจากที่ยอดการส่งออกของจีนอันเป็นรายได้สำคัญของประเทศลดลงอย่างมาก จนฉุดให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนลดลงต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี และทำให้แรงงานที่อพยพย้ายถิ่นจากชนบทเข้ามาหางานทำในเมืองใหญ่กว่า 20 ล้านคนต้องตกงาน
ด้าน นายดไวฟอร์ เอแวนส์ นักวิเคราะห์ด้านยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจแห่ง State Street Global Markets ในฮ่องกง ออกมาแสดงความเห็นโดยระบุว่า การประกาศเพิ่มการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของนายเวิน เจียเป่า ในครั้งนี้ น่าจะมีวัตถุประสงค์หลักอยู่ที่การสร้างงานเป็นอันดับแรก แต่ในขณะเดียวกัน นายเอแวนส์มองว่า รัฐบาลจีนจำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เพื่อชดเชยรายได้จากการส่งออกของเล่น สิ่งทอ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ชลอตัวจากผลของวิกฤตเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund : IMF) ได้ออกมาคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของจีนในปีนี้น่าจะเติบโตเพียง 6.7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งถือเป็นการเจริญเติบโตที่ตำที่สุดในรอบ 20 ปี
รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลจีนซึ่งเพิ่งจะทุ่มงบประมาณในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศไป 130,000 ล้านหยวน ในไตรมาสนี้ กำลังเตรียมอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นลำดับที่ 3 ของโลก หลังจากที่ยอดการส่งออกของจีนอันเป็นรายได้สำคัญของประเทศลดลงอย่างมาก จนฉุดให้อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนลดลงต่ำที่สุดในรอบ 7 ปี และทำให้แรงงานที่อพยพย้ายถิ่นจากชนบทเข้ามาหางานทำในเมืองใหญ่กว่า 20 ล้านคนต้องตกงาน
ด้าน นายดไวฟอร์ เอแวนส์ นักวิเคราะห์ด้านยุทธศาสตร์ทางเศรษฐกิจแห่ง State Street Global Markets ในฮ่องกง ออกมาแสดงความเห็นโดยระบุว่า การประกาศเพิ่มการลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของนายเวิน เจียเป่า ในครั้งนี้ น่าจะมีวัตถุประสงค์หลักอยู่ที่การสร้างงานเป็นอันดับแรก แต่ในขณะเดียวกัน นายเอแวนส์มองว่า รัฐบาลจีนจำเป็นต้องเร่งฟื้นฟูภาคอสังหาริมทรัพย์และกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เพื่อชดเชยรายได้จากการส่งออกของเล่น สิ่งทอ และเครื่องใช้ไฟฟ้า ที่ชลอตัวจากผลของวิกฤตเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (International Monetary Fund : IMF) ได้ออกมาคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจของจีนในปีนี้น่าจะเติบโตเพียง 6.7 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ซึ่งถือเป็นการเจริญเติบโตที่ตำที่สุดในรอบ 20 ปี
