เอเจนซี – จีนตามก้นเมกา ประกาศใช้มาตรการ “ซื้อสินค้าจีน” ในโครงการที่ได้รับเงินอุดหนุนจากรัฐบาล หวั่นมาตรการนี้อาจทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับประเทศคู่ค้าตึงเครียดขึ้น หลังจากจีนเคยวิจารณ์นโยบาย “ซื้อสินค้าอเมริกา” อย่างเสียๆ หายๆ มาแล้ว
โดยรัฐบาลจีนได้ออกคำสั่งนี้มาตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่เพิ่งมาปรากฎในสื่อของรัฐบาล ซึ่งคำสั่งดังกล่าวระบุว่า “การลงทุนในโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ควรต้องใช้วัตถุดิบที่ผลิตภายในประเทศ เว้นแต่ว่าวัตถุดิบชนิดนั้น หรือบริการนั้น ไม่สามารถหาซื้อได้ภายในประเทศในราคาที่เหมาะสม”
คำสั่งดังกล่าวยังระบุอีกว่า “หากโครงการใดจำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศจริงๆ ก็ให้ขออนุมัติจากหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะทำข้อตกลงจ่ายเงิน”
คำสั่งนี้ทำให้กลุ่มธุรกิจต่างชาติที่เป็นซัพพลายเออร์ด้านอุปกรณ์ก่อสร้างและสินค้าอื่นๆ หวั่นเกรงว่าธุรกิจของตนจะถูกเขี่ยออก จากโครงการที่ได้รับอุดหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนจำนวน 4 ล้านล้านหยวน
ขณะที่ผู้ผลิตกังหันลมจากต่างชาติรายหนึ่ง กล่าวว่า บริษัทเขาเคยถูกตัดออกจากการประมูลโครงการด้านพลังงานที่รัฐบาลให้เงินอุดหนุนจำนวน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ถึงแม้ว่าเขาจะมีโรงงานอยู่ในประเทศจีนก็ตาม
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จีนได้ให้คำมั่นสัญญาว่า ในแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น จีนจะปฏิบัติต่อบริษัทต่างชาติเท่าเทียมกับบริษัทในประเทศ และยังเรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศอื่นสนับสนุนการเปิดเสรีทางการค้าด้วย
นอกจากนี้ จีนยังได้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐฯ อย่างรุนแรงเมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดให้ภาคธุรกิจเหล็กและเหล็กกล้าที่รัฐบาลให้การอุดหนุน หันมาใช้วัตถุดิบที่ผลิตภายในประเทศ โดยสื่อยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลจีนรายหนึ่ง เรียกมาตรการของสหรัฐฯ ดังกล่าวว่า เป็นพิษต่อความพยายามที่จะแก้วิกฤตเศรษฐกิจของโลก
แม้องค์การการค้าโลกที่จีนเป็นหนึ่งในชาติสมาชิก ได้กำหนดไว้ว่าสมาชิกทุกประเทศต้องปฏิบัติต่อค้าจากต่างประเทศอย่างเท่าเทียมกับผู้ค้าภายใน แต่จีนก็ไม่เคยลงนามในข้อตกลงว่า ข้อกำหนดนี้จะมีผลครอบคลุมไปถึงการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาล และนั่นทำให้ความสามารถในการแข่งขันของจีนมีเหนือกว่าประเทศอื่นๆ
โดยรัฐบาลจีนได้ออกคำสั่งนี้มาตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา แต่เพิ่งมาปรากฎในสื่อของรัฐบาล ซึ่งคำสั่งดังกล่าวระบุว่า “การลงทุนในโครงการต่างๆ ของรัฐบาล ควรต้องใช้วัตถุดิบที่ผลิตภายในประเทศ เว้นแต่ว่าวัตถุดิบชนิดนั้น หรือบริการนั้น ไม่สามารถหาซื้อได้ภายในประเทศในราคาที่เหมาะสม”
คำสั่งดังกล่าวยังระบุอีกว่า “หากโครงการใดจำเป็นต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศจริงๆ ก็ให้ขออนุมัติจากหน่วยงานรัฐบาลที่เกี่ยวข้อง ก่อนที่จะทำข้อตกลงจ่ายเงิน”
คำสั่งนี้ทำให้กลุ่มธุรกิจต่างชาติที่เป็นซัพพลายเออร์ด้านอุปกรณ์ก่อสร้างและสินค้าอื่นๆ หวั่นเกรงว่าธุรกิจของตนจะถูกเขี่ยออก จากโครงการที่ได้รับอุดหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนจำนวน 4 ล้านล้านหยวน
ขณะที่ผู้ผลิตกังหันลมจากต่างชาติรายหนึ่ง กล่าวว่า บริษัทเขาเคยถูกตัดออกจากการประมูลโครงการด้านพลังงานที่รัฐบาลให้เงินอุดหนุนจำนวน 5 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ถึงแม้ว่าเขาจะมีโรงงานอยู่ในประเทศจีนก็ตาม
เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา จีนได้ให้คำมั่นสัญญาว่า ในแผนการกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น จีนจะปฏิบัติต่อบริษัทต่างชาติเท่าเทียมกับบริษัทในประเทศ และยังเรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศอื่นสนับสนุนการเปิดเสรีทางการค้าด้วย
นอกจากนี้ จีนยังได้วิพากษ์วิจารณ์รัฐบาลสหรัฐฯ อย่างรุนแรงเมื่อรัฐบาลสหรัฐฯ กำหนดให้ภาคธุรกิจเหล็กและเหล็กกล้าที่รัฐบาลให้การอุดหนุน หันมาใช้วัตถุดิบที่ผลิตภายในประเทศ โดยสื่อยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลจีนรายหนึ่ง เรียกมาตรการของสหรัฐฯ ดังกล่าวว่า เป็นพิษต่อความพยายามที่จะแก้วิกฤตเศรษฐกิจของโลก
แม้องค์การการค้าโลกที่จีนเป็นหนึ่งในชาติสมาชิก ได้กำหนดไว้ว่าสมาชิกทุกประเทศต้องปฏิบัติต่อค้าจากต่างประเทศอย่างเท่าเทียมกับผู้ค้าภายใน แต่จีนก็ไม่เคยลงนามในข้อตกลงว่า ข้อกำหนดนี้จะมีผลครอบคลุมไปถึงการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐบาล และนั่นทำให้ความสามารถในการแข่งขันของจีนมีเหนือกว่าประเทศอื่นๆ