โค้กส่ง “Minute Maid” ลุยตลาดน้ำผลไม้จีน

เอเอฟพี - บริษัทโคคา-โคลา ผู้ผลิตน้ำดำยี่ห้อโค้กประเดิมส่งน้ำผลไม้แบรนด์ “Minute Maid” รุกเจาะตลาดน้ำผลไม้แดนมังกร หลังจากรัฐบาลปักกิ่งดับฝันซื้อบริษัทผลิตน้ำผลไม้จีนไปก่อนหน้านี้

โค้กเปิดตัวผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ภายใต้ยี่ห้อ “Minute Maid” ในเมืองกว่างโจว มณฑลกว่างตง ด้วยการงัดกลยุทธ์ทางการตลาดดึงนักร้องฮ่องกงชื่อดัง “เฉิน อี้ซวิ่น” มาเป็นพรีเซนเตอร์ หวังยกระดับแบรนด์ให้ติดตลาดแดนมังกรซึ่งมีประชากรมากถึง 1,300 ล้านคนอย่างรวดเร็ว โดยสินค้าที่นำมาเปิดตลาดตัวแรกก็คือน้ำองุ่นขาว และน้ำว่านหางจระเข้ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ล็อตแรกที่คลอดมาจากศูนย์วิจัยและพัฒนาเซี่ยงไฮ้ของโคคา-โคลา ที่เปิดดำเนินการเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

กิจกรรมรณรงค์ครั้งนี้เป็นความเคลื่อนไหวครั้งแรกของโคคา-โคลา นับตั้งแต่รัฐบาลจีนสกัดโค้กประมูลซื้อบริษัทน้ำผลไม้ฮุ่ยหยวนมูลค่า 2,400 ล้านหยวนเมื่อเดือนมีนาคมโดยอ้างการซื้อกิจการครั้งนี้จะนำมาซึ่ง “ผลกระทบเชิงลบต่อการแข่งขัน” ภายในประเทศจีน ซึ่งหากได้รับไฟเขียวดีลครั้งนี้จะถือว่าเป็นการซื้อกิจการในจีนที่ใหญ่ที่สุดของบริษัทต่างชาติ

ด้านมูห์ตาร์ เคนท์ ประธานและซีอีโอของโคคา-โคลาได้ตอบโต้ต่อการเคลื่อนไหวของรัฐบาลจีนในขณะนั้นว่า รู้สึกผิดหวังที่ดีลดังกล่าวไม่บรรลุตามแผนการที่วางไว้ แต่บริษัทก็เตรียมที่จะนำศักยภาพและทรัพยากรที่มีอยู่ดำเนินการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไป ซึ่งครอบคลุมถึงการสร้างและพัฒนาผลิตภัณฑ์น้ำผลไม้ตามแผนการของบริษัท

และในการเปิดตัวเครื่องดื่มน้ำผลไม้ใหม่ของโค้ก แอนเดรส ไคเกอร์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดในแผ่นดินใหญ่กล่าวว่า กิจกรรมรณรงค์ครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของแผนผลักดันน้ำผลไม้ Minute Maid เข้าเจาะตลาดแดนมังกร

ทั้งนี้ จีนเป็นตลาดใหญ่อันดับ 3 ของโคคา-โคลา และเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 สำหรับ Minute Maid โดยเมื่อปีที่แล้วมียอดจำหน่ายมากกว่า 1,000 ล้านขวด ซึ่งทางโค้กก็ตั้งเป้าลงทุนเพิ่มในแดนมังกรอีก 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐในช่วง 3 ปีข้างหน้า ซึ่งเป็นเม็ดเงินลงทุนที่มากมหาศาลเมื่อเทียบกับเงินลงทุน 1,600 ล้านหยวนที่โค้กเคยควักกระเป๋าจ่ายมาตั้งแต่ปี 2522 เนื่องจากเล็งเห็นว่า จีนมีแนวโน้มต้องการดื่มน้ำผลไม้มากขึ้น อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากรายได้ที่เติบโต และความต้องการมีสุขภาพที่ดีมากขึ้น

ด้านนักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตลาดเครื่องดื่มของจีน ไม่ว่าจะเป็นน้ำอัดลม ชา และน้ำผลไม้ น่าจะเติบโตต่อเนื่องด้วยอัตราการเติบโตมากกว่าร้อยละ 16 ต่อปี