เอเจนซี่–นักท่องเที่ยวจีนเดินทางมาถึงท่าเรือ จีหลง แห่งเกาะไต้หวัน ท่ามกลางการต้อนรับใหญ่โต ไต้หวันถึงกับปูพรมแดงรับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุดจากแผ่นดินใหญ่ ที่มาช่วยอุดหนุนการท่องเที่ยวในยามเศรษฐกิจถดถอย
สำนักข่าวส่วนกลางไต้หวันเปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวจำนวน 1,600 คน ได้ขึ้นเรือเดินทางออกจากเซี่ยงไฮ้เมื่ออาทิตย์(14 มี.ค.) และได้มาถึงท่าเรือจีหลง ทางตอนเหนือของไต้หวันแล้วในวันนี้(16 มี.ค.) ท่ามกลางการต้อนรับอย่างเอิกเกริก ทั้งขบวนแห่เต้นสิงห์โต คณะต้อนรับกลุ่มใหญ่มาคอยรับอย่างอบอุ่น นักท่องเที่ยวนับพันลงจากเรือ เดินมาตามพรมแดงที่ปูรับอย่างให้เกียรติยิ่ง
นับเป็นนักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่กลุ่มใหญ่ที่สุดที่เดินทางมาท่องเที่ยวไต้หวัน นับตั้งแต่สองดินแดนได้ตกลงเปิดการเชื่อมโยงกันโดยตรง 3 ด้าน
ทั้งนี้ กลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาในเที่ยวนี้ล้วนเป็นพนักงานของบริษัทแอมเวย์ยักษ์ใหญ่กิจการขายตรงสัญชาติอเมริกันในจีน โดยบริษัทฯเผยว่ามีโครงการจะส่งพนักงานอีก 8 ชุด จากจีนเพื่อมาเที่ยวไต้หวัน
สำนักข่าวส่วนกลางไต้หวัน ระบุ นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จะสร้างรายได้สู่ไต้หวันมากกว่า 600 ล้านเหรียญไต้หวัน (17.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) โดยตลอด 7 วันในการเดินทาง นักท่องเที่ยวจะเดินทางไปเยี่ยมชมในสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมหลายแห่งในไต้หวัน เช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกู้กง ในกรุงไทเป ทะเลสาบสุริยันจันทราในภาคกลาง และแนวผาหินอ่อนไท่หลู่เก๋อ ในภาคตะวันออก
รัฐบาลไต้หวันของประธานาธิบดีหม่า อิงจิ่วแห่งพรรคก๊กมินตั๋ง เดินหน้ากระชับสัมพันธ์กับจีนใหญ่อย่างใกล้ชิดที่สุด จนในเดือนมิถุนายนปีที่แล้วได้ตกลงบุกเบิกการเปิดการเชื่อมโยงโดยตรงได้แก่การเดินทางทางอากาศ แต่ก็เป็นการเปิดอย่างจำกัด และความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวที่จีนสัญญาจะช่วยเหลือไต้หวันนั้น ก็ล้มเหลว ขณะที่เศรษฐกิจไต้หวันแย่ลงจนเข้าสู่ภาวะถดถอย จนในเดือนธันวาคมทั้งสองบรรลุการเปิดเชื่อโยงโดยตรงทั้ง 3 ด้านอย่างสมบูรณ์ ได้แก่ การคมนาคมทางอากาศ การขนส่งทางเรือ และการไปรษณีย์ ซึ่งช่วยประหยัดทั้งเวลา และค่าใช้จ่ายอย่างมาก ทั้งสองได้ตกลงหนุนการท่องเที่ยวไต้หวัน โดยตั้งเป้าผลักดันนักท่องเที่ยวจากจีน มายังไต้หวัน 3,000 คน ต่อวัน
ทั้งนี้ หลังจากผู้นำก๊กมินตั๋ง เจียงไคเช็คแพ้สงครามกลางเมืองในจีน ปี 2492 และมาตั้งรัฐบาลต่างหากที่ไต้หวัน ทั้งสองก็ตัดขาดการเชื่อโยงสามด้านดังกล่าว โดยการติดต่อทั้งหมดต้องผ่านดินแดนที่สาม.