รอยเตอร์/ เอเอฟพี – จีนคลอดโครงการรณรงค์ให้ความรู้เรื่องเพศ หวังทำลายทัศนคติเก่าๆ และความรู้สึกอับอายที่จะไปหาหมอเพื่อรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และปัญหาการมีบุตรยากมากขึ้น
จากข้อมูลของหนึ่งในผู้ให้คำปรึกษาในโครงการนี้ระบุว่า มีผู้หญิงแค่ 7% และผู้ชายเพียง 8% ซึ่งมากกว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่ไปพบแพทย์เพื่อรักษาโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และปัญหาเกี่ยวกับเรื่องเพศในทันที ขณะที่ 1 ใน 3 ของผู้ป่วยไม่เคยไปพบแพทย์เลย
“มันเป็นตัวเลขที่น่าตกใจมาก จำนวนของผู้ที่เข้าไปรับการรักษาโรคเกี่ยวกับเพศน้อยมากๆ และบางคนก็เป็นโรคที่ค่อนข้างร้ายแรง” เซี่ย เอินหลัน ผู้อำนวยการฝ่ายสูติกรรมและนรีเวชของโรงพยาบาลฟูซิ่งกล่าว
ด้านชุย เหยียนตี้ จากศูนย์พัฒนาสตรีและเด็กแห่งประเทศจีน ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์กรสนับสนุนโครงการนี้ กล่าวว่า “สุขอนามัยเรื่องเพศนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตครอบครัวและมีส่วนช่วยสร้างสังคมที่ปรองดอง”
และปัจจุบันโรคเอดส์ก็กลายเป็นโรคติดต่อทางเพศที่คุกคามชาวจีนอย่างมาก โดยล่าสุดกระทรวงสาธารณสุขจีนเปิดเผยว่า ปัจจุบันเอดส์กลายเป็นโรคติดต่อร้ายแรงที่สุดของจีนเป็นครั้งแรก เพราะจากสถิติล่าสุดพบว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปีก่อนมีผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์เฉลี่ยชั่วโมงละ 1 คนเป็นอย่างน้อย
กระทรวงสาธารณสุขจีน เผยในรายงานว่า เอดส์แซงหน้าวัณโรค และโรคพิษสุนัขบ้าขึ้นเป็นโรคติดต่อที่คร่าชีวิตชาวจีนเป็นอันดับหนึ่งในปี 2551 แม้ว่ายังไม่มีการเปิดเผยสถิติตลอดทั้งปี แต่กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่าตั้งแต่เดือน มกราคม-กันยายนปีก่อน มีผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์มากถึง 6,897 คน ทำให้ขณะนี้จีนมีผู้เสียชีวิตจากเอดส์ทั้งสิ้น 34,864 คน นับแต่พบเอดส์ระบาดในจีนเป็นครั้งแรกช่วงทศวรรษที่ 1980 และมีผู้ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ HIV รวมกันทั้งสิ้น 264,302 คน
อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวยังน้อยกว่าความเป็นจริงมาก เพราะเป็นเฉพาะตัวเลขผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ แต่จีนคาดว่า เมื่อปีก่อนมีผู้ติดเชื้อ HIV และเอดส์ราว 700,000 คน และคาดว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ราว 85,000 คน