xs
xsm
sm
md
lg

’ดิสนีย์’บุกฮาร์บิน เทศกาลโคมไฟฤดูหนาวคึกคัก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โลกของดิสนีย์ในเทศกาลน้ำแข็งเมืองฮาร์บิน - IHT
เอเยนซี่ – เป็นเวลาหลายทศวรรษแล้วที่ชาวบ้านในเมืองหน้าด่านอันหนาวเย็นทางตอนใต้ของไซบีเรีย ได้ตัดน้ำแข็งก้อนใหญ่มาแกะสลักในช่วงฤดูหนาว จนทำให้ดินแดนแห่งนี้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวขึ้นชื่อในช่วงหน้าหนาว

หิมะแกะสลักในเทศกาลโคมไฟน้ำแข็งที่เมืองฮาร์บิน มณฑลเฮยหลงเจียงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่บนพื้นที่โล่ง รูปลักษณ์ของหิมะจะแสดงถึงสัญญลักษณ์ต่างๆ ของจีน เช่น กำแพงเมืองจีน พระราชวังต้องห้าม รวมทั้งภูเขาพระพุทธรูปอันศักดิ์สิทธิ์

แต่ในฤดูหนาวปีนี้ ดินแดนแห่งนี้จะเต็มไปด้วยหิมะแกะสลักในรูปร่างของบรรดาตัวการ์ตูนชื่อดังของวอลท์ ดิสนีย์ อย่างเช่น มิคกี้ เมาส์, โดนัลด์ ดัค และ วินนี่ เดอะ พูห์

การที่บริษัทซึ่งได้รับลิขสิทธิ์จากดิสนีย์ได้รับอนุญาตจากรัฐบาลพรรคคอมมิวนิสต์จีน ให้เข้ามาจัดงานเทศกาลฤดูหนาวในปีนี้ ทำให้เทศกาลน้ำแข็งที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกกลายเป็นสวนสนุกดิสนีย์อีกแห่งหนึ่ง และนี่ถือเป็นครั้งแรกที่บริษัทเอกชนได้รับอนุญาตให้จัดงานเทศกาลน้ำแข็ง

ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้หิมะแกะสลักภาพสโนว์ ไวท์ จะเข้ามาแทนมังกรแกะสลัก บรรดาเด็กๆ ที่เข้าไปเที่ยวงานจะได้เดินชมห้องโถงภายในปราสาทของอลาดิน แทนที่จะเป็นการเดินในห้องโถงของพระราชวังในราชวงค์ชิง โลกเล็กๆ ของบรรดาตัวการ์ตูนจะจัดแสดงอยู่ในมุมหนึ่งของสวนสาธารณะ

“ทุกอย่างมันอัดแน่นเต็มพื้นที่ไปหมด คุณไม่อาจนำโคมไฟสีเดียวกันไปใส่ในแท่งน้ำแข็งก้อนเดียวกันได้” นั่นเป็นการบอกเล่าของ ฉี จี้ว์เหว่ย วัย 51 ปี ที่เป็นผู้รับจัดงานเทศกาลน้ำแข็งในปีนี้

ฉี เป็นคนท้องถิ่นในเมืองฮาร์บินแต่ขณะนี้เขาอาศัยอยู่ในแคนาดาและญี่ปุ่น ย้อนกลับไปเมื่อเขาอายุได้ 12 ปี ฉีได้ไปเที่ยวที่สวนสาธารณะจ้าวหลิน และเขาก็ต้องประหลาดใจกับแท่งน้ำแข็งแกะสลักเลียนแบบหอคอยนกกะเรียนเหลือง (Yellow Crane Tower) ซึ่งเป็นเจดีย์โบราณ

เมื่อไม่กี่ปีที่แล้ว เขาในฐานะเป็นรองประธานบริษัทรองเดซ์-วูส์ (Rendez-Vous) ที่ตั้งอยู่ในมหานครเซี่ยงไฮ้ และได้รับลิขสิทธิ์จำหน่ายสินค้าของดิสนีย์ในเอเชีย เคยมายืนมองสวนสาธารณะในเมืองฮาร์บิน พร้อมกับจินตภาพว่าคนงานกำลังเอาก้อนน้ำแข็งก้อนมหึมามากองเพื่อแกะสลักเป็นปราสาทซินเดอเรลล่า บ้านของมิคกี้ และเรือรบของโจรสลัดแห่งคาริบเบียน

เทศกาลน้ำแข็งที่เมืองฮาร์บินนี้ บริษัทวอลท์ ดิสนีย์ ไม่ได้เข้ามาดำเนินการทั้งหมดเหมือนกับสวนสนุกดิสนีย์แลนด์ในฮ่องกง เพียงแค่ดูการออกแบบตัวการ์ตูนเพื่อให้ตรงตามลักษณะที่กำหนดไว้ในยี่ห้อดิสนีย์เท่านั้น หากแต่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นจีนได้อนุญาตให้บริษัทที่ได้รับลิขสิทธิ์จากดิสนีย์ ที่มี ฉี จี้ว์เหว่ย เป็นผู้ร่วมก่อตั้ง มาจัดงานและเก็บค่าเข้าชม



ตามประเพณีของเมืองฮาร์บิน การทำโคมไฟน้ำแข็งเกิดขึ้นในยุคราชวงศ์ชิง จากความร่วมมือของชาวนาและชาวประมงที่ช่วยกันนำน้ำแข็งออกจากถังเล็กๆ และปักเทียนลงไปในน้ำแข็งก้อนนั้น ฉีจำได้ว่า ตอนที่เขาเล็กๆ นั้นเขาต้องทำโคมไฟน้ำแข็งทุกๆ ฤดูหนาวและเดินถือไปรอบหมู่บ้าน แต่ตอนนี้ผู้คนในเมืองฮาร์บินไม่ได้ทำโคมไฟน้ำแข็งกันอีกแล้ว

“ฤดูหนาวในตอนนั้นอากาศหนาวเย็นกว่านี้มาก และโคมไฟก็อยู่ได้จนหมดหน้าหนาว” ฉีบอกกล่าว

เทศกาลโคมไฟน้ำแข็งได้จัดขึ้นครั้งแรกที่สวนสาธารณะจ้าวหลิน เมื่อปี 2506 หลังจากนั้นก็กลายเป็นประเพณีประจำปี และท้ายที่สุดรูปแกะสลักก็เข้ามาแทนที่โคมไฟ แม้ว่าเทศกาลนี้ต้องหยุดชะงักลงหลายปีในช่วงการปฏิวัติวัฒนธรรม แต่เทศกาลนี้ก็ยังคงเป็นที่นิยม และยังเป็นแรงบันดาลใจให้มีการจัดเทศกาลปฏิมากรรมน้ำแข็งลอกเลียนแบบ 2 แห่ง และเทศกาลหิมะอีก 1 แห่ง ที่จัดอยู่ชานเมืองฮาร์บิน

สำหรับเทศกาลน้ำแข็งที่สวนสาธารณะจ้าวหลิน ฤดูหนาวนี้จะเป็นการจัดงานครั้งที่ 35 และสิ่งต่างๆ ในเทศกาลก็ต่างกันลิบลับจากยุคที่มีแสงเทียนวิบวับอยู่ในโคมไฟน้ำแข็ง ปราสาทซินเดอเรลล่าตอนนี้มีบันไดเลื่อนพาขึ้นไปชมและขาลงจะมีสไลด์น้ำแข็งเลื่อนลงมา ทั่วทั้งสวนสาธารณะจะมีแสงสะท้อนสีชมพู น้ำเงิน และเหลือง ที่เกิดจากหลอดไฟนีออนที่ติดอยู่ตามภาพแกะสลัก และชิงช้าสวรรค์ก็ปกคลุมท้องฟ้าไปหมด

ย้อนกลับมาที่เมืองฮาร์บิน การแกะสลักตัวการ์ตูนดิสนีย์เริ่มก่อนเทศกาล 2 สัปดาห์ บรรดาคนงานพากันลากน้ำแข็งก้อนใหญ่มาจากแม่น้ำซงฮวา และจะต้องรอจนกว่าก้อนน้ำแข็งเล็กลง ซึ่งน้ำแข็งแต่ละก้อนมีน้ำหนักมากกว่า 850 ปอนด์ (ประมาณ386กก.) และหากน้ำแข็งหนาขึ้นในฤดูหนาว น้ำหนักของก้อนน้ำแข็งเหล่านี้จะเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่าตัว

บัตรเข้าชมงานในปีนี้มีราคา 15 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 525 บาท) เพิ่มจากปีที่แล้วถึง 2 เท่าตัว ราคานี้อาจแพงไปหน่อยสำหรับชาวจีน แต่เทศกาลนี้ก็ยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยว ในแต่ละวันมีคนเข้าชมเฉลี่ย 3 พันราย หากคืนไหนอากาศลดลงไปถึงกว่า -20 องศาเซลเซียส นักท่องเที่ยวหลายพันคนก็จะหลั่งไหลเข้ามาชมเทศกาล

หลี่ จิง นักศึกษามหาวิทยาลัยวัย 22 ปี พูดในขณะที่เธอกำลังยืนถ่ายรูปคู่กับรูปทิกเกอร์ (หนึ่งในตัวละครในวินนี่ เดอะ พูห์) ที่ติดอยู่บนผนังน้ำแข็ง ว่า “มันสวยมาก มันทำให้ฉันคิดถึงตอนที่ยังเป็นเด็ก ตอนนั้นฉันชอบดูการ์ตูนมาก อย่างเรื่องวินนี่ เดอะ พูห์”

อย่างไรก็ตาม ฉี จี้ว์เหว่ย รองประธานบริษัทที่จัดงาน บอกว่า เขาพยายามที่จะรักษาลักษณะเด่นของเทศกาลไว้ นั่นคือการจัดแข่งขันแกะสลักน้ำแข็งประจำปี ในปีนี้มีรูปสลักน้ำแข็งเข้าประกวด 30 รูปจาก 12 ประเทศ โดยทีมจากมองโกเลียได้แกะสลักรูปจิ้งจกยักษ์ที่มีลิ้นระยิบระยับ ส่วนทีมจากญี่ปุ่นแกะสลักรูปสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมและรูปลูกกวางกำลังกระโดดขึ้นไปในอากาศ (แต่ไม่ใช่ตัวแบมบีนะ)

ยังมีเทศกาลน้ำแข็งอีก 2 แห่งทางตอนเหนือของเมืองที่คนมาเที่ยวจะต้องไปแวะชม ทั้ง 2 แห่งนี้ดำเนินงานโดยรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจ หนึ่งในนั้นเป็นเทศกาลน้ำแข็งที่เก่าแก่ ตั้งมาได้ 15 ปีแล้วและมีรูปแกะสลักยักษ์หิมะตั้งอยู่ ในปีนี้รูปแกะสลักที่โดนเด่นคือ การเลียนแบบภาพสนามกีฬาโอลิมปิค หรือที่รู้จักในนามสนามกีฬารังนก (Bird’s Nest)

อีกหนึ่งแห่งคือเทศกาลน้ำแข็งและหิมะระดับโลก (World of Ice and Snow) ที่มีอายุยาวนานถึงสิบปีแล้ว และได้กลายมาเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่นิยมมากที่สุดในบรรดาเทศกาลทั้ง 3 แห่ง

เทศกาลน้ำแข็งและหิมะระดับโลก ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 100 เอเคอร์ (0.39 เอเคอร์ = 1 ไร่) และมีขนาดใหญ่กว่าสวนสาธารณะจ้าวหลิน หลายเท่าตัว เทศกาลนี้ต้องใช้คนแกะสลักรูปน้ำแข็งถึง 12,500 คน ในเทศกาลมีโบสถ์น้ำแข็งที่ประดับด้วยไฟ มีภาพพระพุทธรูปหิมะขนาดมหึมา และนอกตัวอาคารยังมีรูปนักแสดงแต่งชุดลุมแซม

หลิว รุ่ยเฉียง ผู้บริหารเทศกาลดังกล่าว บอกว่า การปรากฎตัวของบรรดาตัวการ์ตูนดิสนีย์ในเทศกาลน้ำแข็งที่เก่าแก่กว่า ไม่ได้ส่งผลต่อธุรกิจของเขา

“ขนาดของเทศกาลนั้นเล็กมาก แค่ตัวอาคารหนึ่งในเทศกาลของผมยังมีขนาดใหญ่กว่าพื้นที่ทั้งหมดของสวนสาธารณะแห่งนั้นเสียอีก”

อย่างไรก็ตาม จุดดึงดูดแบบดิสนีย์ก็ยังมีให้เห็นในเทศกาลน้ำแข็งของหลิว โดยนักท่องเที่ยวสามารถไปโพสท่าถ่ายรูปใกล้ๆ กับคนงานที่แต่งตัวเกือบจะคล้ายคลึงกับมิคกี้ เม้าส์ และทิกเกอร์

เมื่อถามว่านั่นคือตัวละครของดิสนีย์หรือเปล่า หลิว บอกว่าไม่ใช่ แต่เป็นตัวละครที่เขาสร้างขึ้นมาเอง





กำลังโหลดความคิดเห็น