เอเอฟพี – บริษัทไชน่า เรลเวย์ คอร์ป คว้าสัญญาสร้างทางรถไฟรางเดี่ยวมูลค่า 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อนำผู้แสวงบุญเดินทางไปทำพิธีฮัจญ์ที่มหานครเมกกะ โดยข้อตกลงข้างต้นเป็นหนึ่งในความร่วมมือระหว่างจีนและซาอุดิอาระเบีย ในระหว่างที่หู จิ่นเทา ประธานาธิบดีจีนเดินทางเยือนเพื่อกระชับความสัมพันธ์
ในระหว่างการเยือนประเทศซาอุดิอาระเบียของประธานาธิบดีหู จิ่นเทาและคณะ เมื่อวันอังคาร (10 ก.พ.) บริษัทไชน่า เรลเวย์ คอร์ป ได้บรรลุข้อตกลงกับเจ้าชายมิเทป บิน อับดุลลาซิส ประธานคณะกรรมการพัฒนานครศักดิ์สิทธิ์เมกกะและเมดิน่า ในการสร้างรถไฟฟ้ารางเดี่ยวมูลค่า 1,800 ล้านเหรียญสหรัฐ
จุดประสงค์ในการสร้างทางรถไฟเส้นนี้ขึ้น ก็เพื่อนำพาผู้แสวงบุญเดินทางไปยังนครเมกะ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม เพื่อประกอบพิธีฮัจญ์ ซึ่งเป็นพิธีกรรมทางศาสนาประจำปี โดยทางรถไฟนี้จะเชื่อมเมืองเมกกะ กับเมืองมินา อะราฟัต และมุซาดาลิฟาห์ ซึ่งล้วนเป็นสถานที่ที่มีผู้แสวงบุญมาเยือนเป็นจำนวนมากในช่วงพิธีฮัจญ์
สำนักข่าวเอสพีเอรายงานว่า โครงการนี้จะแล้วเสร็จสมบูรณ์ในอีก 2 ปีข้างหน้า แต่อย่างไรก็ตามคาดว่าจะพร้อมปฏิบัติการราว 35% ในช่วงพิธีฮัจญ์ปลายเดือนพฤศจิกายนของปีนี้ โดยโครงการนี้ประกอบด้วยทางรถไฟยกระดับ 4 สายที่คาดว่าจะสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 20,000 คนต่อชั่วโมง
ข้อตกลงข้างต้นนั้น ถือเป็นสัญญาฉบับที่ 2 ในรอบสัปดาห์ที่เกี่ยวข้องกับผู้ก่อสร้างทางรถไฟของจีนและเมกกะ โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (7 ก.พ.) บริษัทคอนโซเทียม นำโดย ไชน่า เรลเวย์ เอ็นจิเนียริ่ง ได้คว้าสัญญางานโยธามูลค่า 1,800 ล้านเหรียญในการสร้างเส้นทางรถไฟความเร็วสูงยาว 444 กิโลเมตรเชื่อมนครเมกกะและเมดิน่าโดยผ่านเมืองเจดดาห์ด้วย
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้ลงนามข้อตกลงครอบคลุมความร่วมมือเกี่ยวกับการพัฒนาและการค้าน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ ปิโตรเคมี และสินแร่เมื่อวันอังคาร (10 ก.พ.) เนื่องจากจีนพยายามแสวงหาแหล่งซัปพลายทรัพยากรธรรมชาติในระยะยาวเพื่อผลักดันเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของประเทศ
จากตัวเลขสถิติของจีนระบุว่า จีนนับเป็นหนึ่งในผู้ซื้อน้ำมันอันดับต้นของซาอุดิอาระเบีย โดยเมื่อปี 2551 ได้นำเข้าน้ำมันดิบจากซาอุฯ ถึง 36 ล้านตัน นอกจากนี้บริษัทจีนยังได้โปรเจกสำรวจแหล่งน้ำมันใหม่ภายในซาอุดิอาระเบีย ร่วมกับบริษัทอะรามโก ซึ่งเป็นบริษัทน้ำมันของรัฐ
และในวันพุธ (11 ก.พ.) เอซีดับเบิลยูเอ พาวเวอร์ อินเตอร์เนชั่นนัลของซาอุดิอาระเบีย ก็ได้ประกาศเป็นพันธมิตรกับเซี่ยงไฮ้ อิเลคทริก เจเนอเรชั่น กรุ๊ป ในการร่วมมือสร้างโรงงานผลิตพลังงานไฟฟ้าและโรงงานชะล้างเกลือ เพื่อนำน้ำทะเลมาใช้
อนึ่ง ข้อตกลงเหล่านี้ล้วนสะท้อนให้เห็นถึงบทบาทที่สำคัญมากขึ้นของจีนที่มีต่อแผนพัฒนาเมืองด้านสาธารณูปโภค การศึกษา และโครงการใหม่อื่นๆ อีก 5 ปีข้างหน้ารวมมูลค่ากว่า 120,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
ทั้งนี้ หลายปีที่ผ่านมาจีนได้เล็งเห็นความสำคัญในการกระชับความสัมพันธ์กับประเทศที่อุดมไปด้วยน้ำมันและทรัพยากรแร่เป็นอย่างมาก เพื่อประกันซัปพลายพลังงานให้แก่ประเทศ ดังจะเห็นได้จากการที่ผู้นำแดนมังกรเริ่มภารกิจกระชับมิตรในต่างแดนครั้งแรกของปี 2552 ด้วยการเยือนชาติในทวีปแอฟริกาและซาอุดิอาระเบีย
ประธานาธิบดีหูไปเยือนซาอุดิอาระเบียครั้งสุดท้ายเมื่อเดือนเมษายน2549 หลังจากกษัตริย์อับดุลลาห์เสด็จเยือนกรุงปักกิ่งได้เพียง 3 เดือน ซึ่งนับเป็นการเยือนครั้งประวัติศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมือที่เพิ่มพูนระหว่างสองชาติ โดยเฉพาะในภาคน้ำมัน โดยพระองค์นับเป็นกษัตริย์ซาอุดิอาระเบียพระองค์แรกที่เยือนจีน นับตั้งแต่ชาติทั้งสองสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันในปี 2533
โดยในช่วง 2-3 ปีที่แล้วมูลค่าการค้าระหว่างจีนกับซาอุดิอาระเบียปรับขึ้นมาตลอด โดยมีมูลค่าทั้งสิ้น 36,000 ล้านดอลลาร์ในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2551 เปรียบเทียบกับมูลค่า 16,000 ล้านดอลลาร์ในปี2548