เอเอฟพี – เลอโนโว บริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ของจีนประกาศแผนปลดพนักงาน 2,500 ตำแหน่ง หรือราวร้อยละ 11 ของกำลังการผลิตของบริษัทในทั่วโลก หลังจากวิกฤตเศรษฐกิจชะลอตัวทำบริษัทขาดทุนยับ
ในแถลงการณ์ต่อตลาดหุ้นฮ่องกง เลอโนโว ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือเครื่องพีซีรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก ระบุว่า แผนปรับบุคลากรดังกล่าวจะช่วยบริษัทประหยัดเงินได้ถึง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปีการเงิน ซึ่งสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2553 (2009)
นอกจากนั้น บริษัทยังจะผนวกรวมหน่วยปฏิบัติการของบริษัทในจีน,เอเชีย-แปซิฟิก และรัสเซียเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในด้านต่าง ๆ
แผนปลดพนักงานเกิดขึ้น หลังจากประมาณการณ์เบื้องต้นบ่งชี้ว่า บริษัทจะประสบการขาดทุนในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่แล้ว โดยผู้บริหารของบริษัทเชื่อว่า สาเหตุหลักมาจากปัญหาเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่งผลให้ความต้องการซื้อเครื่องพีซี และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องลดน้อยลง
ในแถลงการณ์ยังได้ระบุเป็นพิเศษถึงปัญหาในจีน ที่ทางบริษัทเผชิญว่า ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวของจีนได้ส่งผลกระทบต่อตลาด ซึ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์สำหรับเลอโนโวที่นั่น โดยกำไรเบื้องต้น ที่ดิ่งร่วง เป็นเพราะยอดการขายในจีนตกลง
ส่วนความเคลื่อนไหวราคาหุ้นของเลอโนโวในการค้าช่วงเช้าวันพฤหัสฯ ( 8 ม.ค.) ดิ่งลงร้อยละ 17.4 มาอยู่ที่ 2.13 ดอลลาร์ฮ่องกง (0.28 ดอลลาร์สหรัฐฯ) หลังจากมีการพักการซื้อขายเมื่อวันพุธ ระหว่างรอการแถลงเตือนเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัท
นักวิเคราะห์ของแอมเพิล ไฟแนนซ์ กรุ๊ป มองลู่ทางของเลอโนโวในปีนี้ยังไม่สดใส นักลงทุนจึงไม่ควรซื้อหุ้นตัวดังกล่าว
ทั้งนี้ กำไรสุทธิของเลอโนโวในไตรมาสที่ 3 ของปีที่แล้วทรุดฮวบร้อยละ 78 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า เหลือ 23,400,000 ดอลลาร์ หลังจากกำไรสุทธิเคยพุ่งพรวดกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ ในช่วงปีการเงิน2550-2551 เนื่องจากยอดขายทั่วโลกโตแข็งแกร่ง นอกจากนั้น ในเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว ยอดขายยังพุ่งกระฉูดเป็นตัวเลข 2 หลักในทุกตลาดของเลโนโวนอกสหรัฐฯ อีกด้วย
เลอโนโว เคยผงาดโดดเด่น เมื่อเข้าซื้อแผนกเครื่องพีซีของไอบีเอ็มเมื่อปี 2548 และเคยพยายามเข้าซื้อแพกการ์ด เบลล์ ผู้ผลิตเครื่องพีซีของยุโรป แต่ถูกเอเซอร์ คู่แข่งไต้หวัน ชิงตัดหน้าไปเสียก่อน
นอกจากนั้น นาย วิลเลียม อาเมลิโอ ประธานและหัวหน้าฝ่ายบริหารของเลโนโวเคยกล่าวเมื่อปีที่แล้วด้วยว่า เลโนโวจะเล็งเป้าหมายในตลาดใหม่อย่างไม่ลดละต่อไป
ขณะที่หัวเหว่ย เทคโนโลยีผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมเอกชนรายใหญ่สุดของจีน ก็ออกมาเผยยอดจำหน่ายทั่วโลกประจำปี 2008 ว่าขยายตัวที่ร้อยละ 46 หรือมูลค่า 23,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ไชน่า บิสสิเนส นิวส์ รายงาน
โดยในรายงานชี้ว่า ตัวเลขที่หัวเหว่ยประกาศออกมานั้น เป็นเพียงแค่สัญญาซื้อขาย ขณะที่ตัวเลขยอดขายเฉลี่ยอยู่ที่ 72-75 % “ปีนี้คาดว่าบริษัทจะสร้างยอดขายทั่วโลกได้มากกว่า 30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ” ซุน ย่าฟัง ประธานบริหารบริษัทหัวเหว่ยได้แจ้งผ่านอีเมลล์ให้กับเหล่าพนักงานทราบ
พร้อมกันนี้ซุนระบุว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่มีความซับซ้อนอย่างยิ่งในปัจจุบัน นำมาซึ่งทั้งความท้าทายและโอกาสในทางธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ไชน่า บิสสิเนส นิวส์ ชี้ว่าอัตราการขยายตัวของหัวเหว่ยเมื่อปีที่แล้วแขวนอยู่บนความเสี่ยง เมื่อได้รับผลกระทบจากวิกฤตการเงินโลก โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับคู่แข่งต่างชาติ ยอดจำหน่ายของบริษัทก็อยู่ในระดับต่ำกว่ามาก
กระนั้นแหล่งข่าววงในก็ระบุว่า หัวเหว่ยจะกระจายพนักงานของสำนักงานใหญ่ที่จีนไปยังต่างประเทศร้อยละ 15 ขณะที่อีกร้อยละ 5 เตรียมถูกลอยแพ
