xs
xsm
sm
md
lg

หนุ่มหัวใสขยายร้านสินค้าหรูมือสองเย้ยเศรษฐกิจชะลอตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

สึโมโต้ ยาสึยามะ ชาวญี่ปุ่นเจ้าของธุรกิจสินค้าฟุ่มเฟือยมือสอง ที่ขยายสาขาแห่งที่ 2 ในฮ่องกงเมื่อเดือนที่แล้ว ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจในช่วงขาลง
เอเอฟพี – ในยุคเศรษฐกิจตกสะเก็ดยามนี้ ที่ใคร ๆ ก็พากันกระเหม็ดกระแหม่ และแหล่งชอปปิ้งตั้งแต่ไต้หวันไปจนถึงออสเตรเลียกำลังย่ำแย่ ทว่าสำหรับสึโมโต้ ยาสึยามะ นักธุรกิจค้าปลีกหนุ่มใหญ่แดนปลาดิบแล้ว เขากำลังยิ้มหวาน

เพราะหนุ่มมั่นอย่างยาสึยามะได้พลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส ด้วยการเปิดร้านสาขาสินค้าฟุ่มเฟือยมือสองของเขา ชื่อ Brand Off อีก 2 แห่งในญี่ปุ่น และในฮ่องกง

“นี่ละครับคือฤกษ์งามยามดีที่สุดในการขยายอาณาจักรธุรกิจของผม” ยาสึยามะคุย

ปัจจุบัน เขาเปิดร้านขายสินค้าฟุ่มเฟือยมือสองในญี่ปุ่นถึง 43 แห่งในญี่ปุ่น

การขายสินค้าฟุ่มเฟือยมือสองเป็นธุรกิจ ที่มีความปลอดภัยในยุคเศรษฐกิจชะลอตัว เช่นเดียวกับการทำธุรกิจประเภทขายอาหารจานด่วน หรือเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ราคาถูก ซึ่งเป็นสินค้าที่คุ้มค่ากับราคา ธุรกิจเหล่านี้กำลังผุดขึ้นมาราวดอกเห็ด เพราะผู้มีรายได้สูงในประเทศกำลังเดือดร้อนจากการถูกลดเงินเดือน, ลดโบนัส

อย่างไรก็ตาม แม้แบรนด์เนมชื่อดังอย่างหลุยส์ วิตต็อง จะถูกภาวะเศรษฐกิจบีบให้ต้องระงับโครงการเปิดร้านหรูที่สุดแห่งใหม่ในกรุงโตเกียว ทว่าความต้องการซื้อสินค้าหรูหราฟุ่มเฟือยของผู้คนมิได้จางหายไปด้วย

Milan Station เชนร้านขายกระเป๋าหรูมือสองในฮ่องกงบอกว่า ร้านสาขาของตนกลับได้กำไรจากการรัดเข็มขัดของผู้คน โดยมีลูกค้ามาอุดหนุนเพิ่มเกือบร้อยละ 10 ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา
สินค้าแบรนด์เนมต่างๆ ภายในร้านของยาสึยามะ - เอเอฟพี
“ความกระหายสินค้าแบรนด์เนมของพวกผู้หญิงจะไม่หายไป เพราะวิกฤตเศรษฐกิจหรอกครับ” โทนี่ เฉิน ผู้จัดการอาวุโสของ Milan Station อ่านเกมขาด

“ ลองผู้หญิงได้ซื้อกระเป๋าหรูเป็นใบแรกของเธอแล้วล่ะก็ ไม่มีทางส่งกระเป๋าคืนแน่”

เฉินเล่าว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เอากระเป๋ามาขายให้ที่ร้าน จะไม่ค่อยต่อรองราคามากมายอย่างที่เคยทำ เพราะต้องการ หรือจำเป็นต้องได้เงินสดด่วนจี๋

Milan Station ก็เลยสบายไป โดยสามารถขายกระเป๋าเหล่านั้นในราคาที่ถูกลง เพื่อดึงดูดลูกค้าได้หลากหลายประเภทมากขึ้น

กระเป๋า “แชนเนล 2.55” มือสอง ใบเบ้อเริ่ม ตอนนี้ขายในราคา 23,000 ดอลลาร์ฮ่องกง (2,950 ดอลลาร์สหรัฐฯ ) เทียบกับราคาตอนที่ยังไม่ผ่านมือใคร 32,000 ดอลลาร์ฮ่องกง

นอกจากนั้น เฉินยังเล่าต่อไปว่า กระเป๋าถือยี่ห้อเฮอร์เมส มือสองใบหนึ่ง ซึ่งมีราคาขายปลีก 60-70,000 ดอลลาร์ฮ่องกง กลับขายได้ถึง 90,000 ดอลลาร์ฮ่องกง เพราะเป็นของหายาก แต่พอเศรษฐกิจซบเซา กระเป๋ามือสองยี่ห้อนี้ราคาตกลง 10,000 ดอลลาร์ฮ่องกง
ป้ายโฆษณาหน้าร้าน บรรยายถึงคุณภาพของสินค้าที่ล้นแก้วและราคาสุดพิเศษฉบับ 3 ภาษา ญี่ปุ่น จีน และภาษาอังกฤษ - เอเอฟพี
ด้านยาสึยามะ วัย 46 ปี ตั้งเป้าเปิดร้านสินค้าฟุ่มเฟือยมือสอง 15 แห่งในฮ่องกง และในจีนในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดย 9 แห่งอยู่ในกรุงปักกิ่ง, นครเซี่ยงไฮ้ และเมืองกว่างโจว

และในที่สุดแล้ว เขาหวังว่าจะสามารถสยายปีกธุรกิจครอบคลุมถึงสิงค์โปร์, ไต้หวัน และมาเก๊าเลยทีเดียว

นักธุรกิจหัวใสผู้นี้มองว่า การดิ่งลงของตลาดหุ้น และอัตราว่างงาน ที่พุ่งสูง บีบคั้นให้แม้แต่คนที่เคยใช้ชีวิตสุรุ่ยสุร่าย ต้องมัดเชือกปากถุงเงินแน่น

“มีลูกค้าหน้าใหม่เข้ามามากขึ้น คนพวกนี้เคยใช้แต่สินค้าใหม่แกะกล่อง เขาต้องการขายกระเป๋า และเครื่องประดับ เพื่อเอาเงินมาซื้อของใหม่ อีกส่วนหนึ่งก็เก็บเอาไว้”

และความปรารถนาสินค้าหรูของชาวฮ่องกง ซึ่งเป็นเรื่องที่รู้กันดีนั้น ยังไม่ส่งสัญญาณชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจ

“คนฮ่องกงปลื้มสินค้าแบรนด์เนม และแคร์เรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัว ยิ่งกว่าคนญี่ปุ่น หรือคนชาติอื่น ๆ เสียอีกเท่าที่ผมนึกได้นะ” ยาสึยามะบอก

แม้ธุรกิจขายสินค้าหรูมือสอง ฟังดูแล้ว อนาคตไปได้โลด แต่ซันดี้ เฉิน ผู้เชี่ยวชาญด้านผู้บริโภคของบริษัทวิจัย TNS China คาดการณ์ว่า ตลาดสินค้าฟุ่มเฟือยจะได้รับผลกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการเงิน เพราะผู้บริโภคที่ร่ำรวย และคนชั้นกลางจะหาทางลดการใช้จ่ายลง และสินค้าฟุ่มเฟือยจัดอยู่ในรายการแรก ที่จะถูกตัดไป

นอกจากนั้น ผู้บริโภคจำนวนหนึ่งจะหันไปซื้อของในตลาดมือสอง แต่ต้องคำนึงด้วยว่าในบางสังคมนั้น อาจมีความเชื่อถือว่าการซื้อของที่คนเคยใช้แล้วนั้น เป็นสิ่งต้องห้าม หรืออัปมงคล

“ในจีนแผ่นดินใหญ่นั้น สินค้าฟุ่มเฟือยมือสองยังคงเป็นเรื่องใหม่ หน้าตาเป็นเรื่องสำคัญสำหรับลูกค้าที่นั่น และพวกเขามักชอบใช้สินค้าใหม่แกะกล่องกันมากกว่า”
กำลังโหลดความคิดเห็น