เอเอฟพี - บริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ หรือ จีเอ็ม ซึ่งกำลังประสบปัญหา จนต้องร้องขอเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลสหรัฐฯ แต่กลับสวนกระแสเปิดโรงงานใหม่เพิ่มเติมในจีน เมื่อวันพุธ (16 ธ.ค.) เสริมกำลังการผลิตรถยนต์เป็น 150,000 คันต่อปี ในปีหน้า
โรงงานแห่งใหม่ของบริษัทเจนเนอรัล มอเตอร์ หรือ จีเอ็ม ตั้งอยู่ที่เมืองเสิ่นหยาง ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เป็นการร่วมทุนระหว่างจีเอ็ม กับ บริษัท เซี่ยงไฮ้ ออโตโมทีฟ อินดัสตรี ของจีน เป็นเหมือนการยืนยันว่าค่ายรถจากสหรัฐฯแห่งนี้ยังคงต่อสู้เพื่อความอยู่รอด ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจโลก
ทั้งนี้จีเอ็ม มีโรงงานผลิตรถที่เมืองเสิ่นหยาง 2 โรงแล้ว โดยโรงงานแห่งแรก รับผิดชอบการผลิตรถยนต์ยี่ห้อ Buick GL8 และ Buick FirstLand มีกำลังการผลิต 50,000 คันต่อปี ส่วนโรงงานใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวนี้จะรับผิดชอบการผลิตรถยนต์ Chevrolet Cruze ตั้งแต่ไตรมาสสองของปี 2009
“การเปิดโรงงานใหม่แห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยืนยันว่า จีเอ็ม จะเดินหน้าธุรกิจในจีนต่อไป” เควิน เวลล์ ประธานของจีเอ็ม ไชน่ากรุ๊ป กล่าวในแถลงการของบริษัท
การเปิดโรงงานใหม่ในจีน เกิดขึ้นไม่กี่วันหลังจาก จีเอ็ม ประกาศว่า จะลดกำลังการผลิตในอเมริกาเหนือลง 30% เนื่องจากความต้องการของตลาดที่ลดลงอย่างรวดเร็ว ทั้งนี้ จีเอ็ม กำลังร้องขอเงินช่วยเหลือฉุกเฉินจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อให้หลีกหนีจากภาวะล้มละลาย โดยทางจีเอ็ม อ้างว่า ยอดขายรถยนต์ในเดือนพฤศจิกายนลดลงถึง 41%
ถึงแม้ผู้ผลิตรถยนต์ อย่าง จีเอ็ม จะประสบปัญหาในสหรัฐฯ แต่สำหรับตลาดจีนแล้วก็ยังคงทำกำไรได้อยู่ และยังเป็นผู้นำตลาดได้มาจนถึงช่วงปีที่แล้ว ซึ่งถูกแซงหน้าโดย โฟลก์สวาเก้น ในด้านของยอดขาย
“เราจะลงทุนอย่างต่อเนื่องในจีน และในความเป็นจริงเราก็ทำกำไรได้มากในตลาดจีนด้วย” เฮนรี่ หว่อง โฆษกของจีเอ็มในเซี่ยงไฮ้ กล่าว
โฆษกของจีเอ็ม ยังบอกด้วยว่า โครงการลงทุนของจีเอ็มในจีนยังคงเป็นไปตามเป้าหมายและดำเนินไปตามปกติ ซึ่งโครงการเหล่านี้ รวมไปถึง การขยายโรงงานเดิมที่มีอยู่ที่เมืองชิงเต่า และเอียนไถ มณฑลซานตง
“เราจะไม่มีการถอนโครงการลงทุนใดๆในจีน” เฮนรี่ หว่อง โฆษกของจีเอ็มในเซี่ยงไฮ้ กล่าว