ผู้ว่าแบงก์ชาติจีนแย้มลดดอกเบี้ยอีก กระตุ้นผู้บริโภคใช้จ่ายชดเชยส่งออก

เอเอฟพี - โจว เสี่ยวชวน ผู้ว่าการธนาคารแห่งชาติจีนเผยเมื่อวันอังคาร (16 ธ.ค.) ว่า เร็วๆ นี้อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก เนื่องจากปักกิ่งกำลังพยายามกระตุ้นให้ผู้บริโภคใช้จ่ายเพื่อชดเชยการส่งออกที่ชะลอตัว

“ผมคาดการณ์ว่า ตั้งแต่ปีนี้ไปจนถึงต้นปีหน้าจะมีแรงกดดันให้ต้องปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก” โจว เสี่ยวชวน ผู้ว่าการแบงก์ชาติจีนให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ RTHK ของฮ่องกงระหว่างเยือนฮ่องกงเพื่อเข้าร่วมการประชุมเสถียรภาพด้านการเงิน (FSF : Financial Stability Forum) ซึ่งเป็นการประชุมระหว่างเจ้าหน้าที่จากธนาคารกลางต่างๆ พร้อมระบุว่า “จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป”

ทั้งนี้ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมารัฐบาลปักกิ่งได้เข็นชุดมาตรการต่างๆ เพื่อพยายามกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ เนื่องจากภาคการส่งออกซึ่งเป็นตัวกระตุ้นเศรษฐกิจที่สำคัญของจีนได้รับความเสียหายจากการที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรปชะลอตัว

หนึ่งในจำนวนนั้นก็คือการประกาศลดดอกเบี้ยเงินกู้ระยะเวลาหนึ่งปีลงเหลือ 5.58% จากเดิม 6.66% และปรับลดดอกเบี้ยเงินฝากระยะเวลาหนึ่งปีลงเหลือ 2.52% จากเดิม 3.6% ซึ่งนับเป็นการปรับลดดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 11 ปี หลังจากเหตุวิกฤตเศรษฐกิจเอเชียเมื่อ ค.ศ.1997 เป็นต้นมา นอกจากนี้ ธนาคารกลางจีนยังสั่งลดวงเงินสำรองที่แต่ละธนาคารตั้งไว้เพื่อค้ำประกันเงินกู้ที่ปล่อยออกไปอีกด้วย โดยธนาคารขนาดใหญ่จะลดวงเงินสำรองลง 1% ส่วนธนาคารขนาดเล็กจะลดวงเงินสำรองลง2%

ขณะเดียวกัน โจวยังกล่าวว่า ปัญหาเงินเฟ้อที่รัฐบาลกลางเคยกังวลอย่างมากในช่วงครึ่งปีแรกปัจจุบันดูเหมือนจะลดความรุนแรงลง โดยเขากล่าวว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค ซึ่งเป็นปรอทวัดเงินเฟ้อ “ลดลงเร็วกว่าที่เราคาดการณ์ไว้” ลงมาเหลือเพียง 2.4% ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นการลดแรงกดดันให้รัฐบาลในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง