เอเอฟพี – กระทรวงสาธารณสุขฮ่องกงยืนยันพบเชื้อไข้หวัดนกในตัวอย่างซากไก่ตายที่ฟาร์มเลี้ยงแห่งหนึ่งในฮ่องกง โดยทางกระทรวงฯ ได้สั่งสังหารหมู่สัตว์ปีกมากกว่า 80,000 ตัวที่อยู่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตรของฟาร์มเกิดเหตุเพื่อตัดไฟแต่ต้นลม นับเป็นการระบาดครั้งแรกของฟาร์มแห่งนี้ในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา
ยอร์ก โจว รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเกาะเปิดเผยว่า “เมื่อวันจันทร์เราพบซากไก่ตายมากถึง 60 ตัวที่ฟาร์มเลี้ยงแห่งหนึ่งในเขตเมืองใหม่ของฮ่องกง ซึ่งอยู่ติดกับแผ่นดินใหญ่ และหลังจากนำตัวอย่างไปตรวจก็ได้รับผลยืนยันเมื่อเช้าวันอังคารว่าไก่เหล่านี้ตายเพราะเชื้อไวรัส H5”
โดยโจวกล่าวว่า ไก่บางตัวที่ตายไปนั้นได้ฉีดวัคซีนป้องกันแล้ว แต่บางตัวก็ไม่ได้ฉีด
อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงสาธารณสุขกล่าวว่า จะต้องมีการทดสอบต่อไปเพื่อระบุว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวเป็น H5N1 ไข้หวัดนกสายพันธุ์อันตราย ซึ่งเคยคร่าชีวิตชาวโลกไปกว่า 250 คนตั้งแต่ปี 2003 หรือไม่
แม้จะยังไม่ยืนยันสายพันธุ์ของไวรัสแต่โจวกล่าวถึงขั้นตอนต่อจากนี้ว่า ได้สั่งให้สังหารสัตว์ปีกทั้งหมดที่อยู่ภายในรัศมี 3 กิโลเมตรของฟาร์มเกิดเหตุ รวมทั้งไก่เป็นทั้งหมดที่จำหน่ายใน “ฉางซาวาน” ตลาดค้าส่งขนาดใหญ่ของเมืองด้วย เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อ โดยการระบาดครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกของฟาร์มแห่งนี้นับตั้งแต่ปี 2003 เป็นต้นมา พร้อมกันนี้เขายังได้ยกระดับเตือนภัยไข้หวัดนกของเมืองเป็นระดับ “ร้ายแรง” ด้วย
นอกจากนี้ทางการฮ่องกงยังห้ามฟาร์มเลี้ยงไก่ท้องถิ่นจำหน่ายไก่และไข่เป็นเวลา 21 วัน รวมทั้งห้ามนำเข้าในช่วงเวลาเดียวกันด้วย
ด้านคุณหวัง เจ้าของฟาร์มเกิดเหตุให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นว่า ไก่เหล่านี้ไม่ได้ตายอย่างเฉียบพลัน แต่มันค่อยๆ ตายไปทีละตัวสองตัว
ทั้งนี้ ฮ่องกงเป็นดินแดนแรกของโลกที่มีรายงานพบการระบาดของเชื้อไข้หวัดนกในมนุษย์เมื่อปี 1997 ซึ่งขณะนั้นมีผู้เสียชีวิตไป 6 คน และเมื่อต้นปีที่ผ่านมาฮ่องกงประกาศแผนยกเลิกการจำหน่ายไก่เป็น ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมากในเมืองทางใต้ของจีน หลังจากพบเชื้อ H5N1 ในตัวอย่างที่เก็บมาจาก 4 ตลาดของเมือง แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการคัดค้านจากผู้เลี้ยงและผู้ค้าไก่เป็นอย่างมาก โดยพวกเขาอ้างว่า ลูกค้าชอบกินไก่ที่เพิ่งฆ่าสดๆ มากกว่าไก่นำเข้าแช่แข็ง