บลูมเบิร์ก - สหภาพแรงงานจีนเร่งอุตสาหกรรมแท็กซี่รีบจัดตั้งสหภาพแรงงานขึ้นมาเพื่อปกป้องผลประโยชน์ของพนักงานและรักษาเสถียรภาพทางสังคมและการเมือง หลังจากคนขับรถแท็กซี่ใน 3 เมืองเป็นอย่างน้อยพากันสไตรค์หยุดงานในเดือนนี้
“มีความขัดแย้งเกี่ยวกับระบบการบริหารจัดการ และการแบ่งสรรผลประโยชน์กันมายาวนาน ซึ่งนำไปสู่บรรยากาศที่ไม่สู้ดีในอุตสาหกรรมแท็กซี่และลูกจ้าง” สหภาพแรงงานแห่งประเทศจีนซึ่งควบคุมโดยรัฐบาลระบุในเว็บไซต์เมื่อวันอาทิตย์ (16 พ.ย.) และกล่าวอีกว่า “คนขับรถแท็กซี่ไม่มีช่องทางให้ร้องเรียน ซึ่งนั่นมักนำไปสู่การเกิดเหตุการณ์บานปราย”
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายนที่ผ่านมาคนขับรถแท็กซี่ราว 2,000 คนในเมืองซันย่า มณฑลไห่หนันได้กลับไปทำงานแล้ว หลังจากสไตรค์เป็นเวลา 5 วัน ตามที่สำนักข่าวซินหัวรายงานเมื่อวันเสาร์ (15 พ.ย.) โดยคนขับประท้วงทางการท้องถิ่นที่ล้มเหลวในการออกกฎระเบียบลดค่าเช่ารถ และกวาดล้างแท็กซี่เถื่อน
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายคนขับรถแท็กซี่ในซันย่าก็กลับไปทำงานหลังจากที่เจียง เจ๋อหลิน เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ประจำซันย่าได้ให้คำมั่นว่าจะออกคำสั่งให้ลดค่าเช่ารถแท็กซี่จาก 7,200 หยวนต่อเดือนเหลือ 5,300 หยวนในวันที่ 1 มกราคม พร้อมระบุบริษัทที่ไม่ยอมลดค่าเช่าจะถูกบีบให้คืนเงินส่วนเกินที่เรียกเก็บจากคนขับรถย้อนหลัง 11 เดือน
ทั้งนี้ก่อนเกิดเหตุการณ์แท็กซี่ประท้วงในซันย่านั้น เกิดเหตุแท็กซี่ประท้วงมาแล้วในกันซู่ และฉงชิ่ง โดยมีคนขับรถแท็กซี่เกือบ 9,000 คนในเมืองฉงชิ่ง เมืองใหญ่อันดับ 4 ของประเทศจีนออกมาประท้วงเนื่องจากปัญหาขาดแคลนแก๊ซธรรมชาติ ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงของรถแท็กซี่ ค่าธรรมเนียมโดยสารขั้นต่ำต่ำเกินไป รวมทั้งปัญหาแท็กซี่ไม่มีใบอนุญาตแย่งทำกิน
เช่นเดียวกับคนขับรถในอำเภอหย่งเติง มณฑลกันซู่ ก็หยุดทำงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อประท้วงปัญหาแท็กซี่เถื่อนเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว