เอเจนซี่ – ทางการจีนลงนามร่วมกับสหภาพยุโรปและสหรัฐ เปิดให้สำนักข่าวต่างชาติทำธุรกิจค้าข่าวในแดนมังกรได้สะดวกขึ้น
ทางการจีนตกลงจะผ่อนคลายกฎระเบียบควบคุมการให้บริการข่าวสารด้านการเงิน เพื่อยุติข้อพิพาทที่สหรัฐอเมริกาและยุโรปยื่นฟ้องต่อองค์การการค้าโลก โดยได้มีการลงนามในบันทึกความเข้าใจร่วม เมื่อวานนี้ (13 พ.ย.) ที่กรุงเจนีวา
สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกา ยื่นฟ้องต่อองค์การการค้าโลก อ้างว่า จีนฝ่าฝืนข้อตกลงการค้าเสรี โดยกำหนดให้สำนักข่าวซินหัวผูกขาดการซื้อขายข่าวสารในประเทศจีน โดยซินหัว ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของพรรคคอมมิวนิสต์เป็นทั้งผู้ควบคุมกฎระเบียบ และผู้เล่นในสนามค้าข่าวในเวลาเดียวกัน
ทั้งนี้ตั้งแต่เดือนกันยายน 2006 ทางการจีนออกระเบียบให้ผู้ให้บริการข่าวสารทางการเงินต่างชาติ ซื้อขายข่าว ข้อมูล รูปภาพ และวีดีโอผ่านสำนักข่าวซินหัวเท่านั้น ห้ามติดต่อโดยตรงกับลูกค้าจีน
“ทางการจีนจะต้องโอนความรับผิดชอบจากสำนักข่าวซินหัว ไปให้หน่วยงานใหม่ที่เป็นอิสระ และข้อบังคับที่ให้สำนักข่าวต่างชาติต้องซื้อขายข้อมูลผ่านตัวกลางเท่านั้น จะต้องยกเลิก” สหภาพยุโรป เรีกร้องในแถลงการณ์ โดยอ้างว่าสหภาพและยุโรปและจีนจะร่วมกันตั้งกฎระเบียบ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลที่เป็นความลับถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด
“การที่ทางการจีนตกลงจะจัดตั้งองค์กรที่เป็นอิสระมาดูแลถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุดเพราะความเป็นอิสระจะเป็นเครื่องรับประกันทางกฎหมายในกรณีที่เกิดการขัดกันของผลประโยชน์” ฝ่ายสหรัฐเรียกร้องเช่นกัน
ทั้งนี้คาดกันว่า ข้อตกลงครั้งนี้จะช่วยให้ รอยเตอร์ บลูมเบิร์ก และดาวโจนส์ สามารถทำธุรกิจได้สะดวกขึ้น เพราะสามารถขายข้อมูลให้กับธนาคาร หน่วยงานรัฐ และลูกค้าในจีนได้โดยตรง
แต่ที่รับบทหนัก คือ สำนักข่าวซินหัว ที่ต้องเปลี่ยนตัวเองให้ทำกำไร และแข่งขันได้กับสำนักข่าวต่างชาติ ซึ่งตั้งแต่ปีที่แล้ว ซินหัวได้ปรับองค์กรให้มีความเป็นอิสระมากขึ้น ภายใต้แผน “ซินหัว 08” ซึ่งตั้งเป้าจะให้ซินหัวเป็นสำนักข่าวชั้นนำ เทียบเท่าสำนักข่าวตะวันตก โดยเฉพาะด้านข้อมูลการเงิน
“ผู้ให้บริการข้อมูลทางการเงิน อย่างรอยเตอร์ บลูมเบิร์ก และดาวโจนส์จะเป็นประโยชน์ต่อกฎระเบียบใหม่ทางการเงิน ซึ่งจะช่วยให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องกับตลาดจีนแข่งขันอย่างเท่าเทียมกัน”สหภาพยุโรป ระบุในแถลงการณ์
“เราพอใจมากที่กลไกของ WTO สามารถยุติข้อพิพาทางการค้าได้ และนำมาซึ่งความพอใจของทุกฝ่าย” ซูซาน ชวาบ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าว
ทั้งนี้สำนักข่าวต่างชาติรายอื่น เช่น เอพี ก็หวังจะร่วมผลประโยชน์ในครั้งนี้ เข้าไปขยายธุรกิจในประเทศจีนเช่นกัน