รอยเตอร์ - นักวิเคราะห์ชี้วิกฤตนมผงปนเปื้อนสารเมลามีนในหลายผลิตภัณฑ์ของสินค้าแบรนด์จีนอาจดึงความเชื่อมั่นในสินค้าของผู้บริโภคทั้งในและเทศให้ลดน้อยลง พร้อมชี้ปลาเน่าตัวเดียวอาจกระทบอุตสาหกรรมนมทั้งระบบ ขณะที่สินค้านมแบรนด์นอกถือโอกาสเหมาะบุกตลาดจีน
“การที่ทางการตรวจพบสารเคมีปนเปื้อนในผลิตภัณฑ์ของบริษัทซานลู่ กรุ๊ป ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ที่เสียหายต่ออุตสาหกรรมนมในประเทศทั้งระบบ อีกทั้งทำให้ผู้บริโภคหวาดกลัวในสินค้า แต่ก็นับว่าเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับผู้ประกอบการอย่างดียิ่ง” ประธานกรรมการผู้ผลิตอาหารแปรรูปในบริษัทแห่งหนึ่งกล่าว
ด้านมหาวิทยาลัย Capital University of Economics and Business ได้จัดทำแบบสำรวจเกี่ยวกับนมผงปนเปื้อนพบว่า ร้อยละ 78.2 ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า เป็นการเอาเปรียบผู้บริโภคอย่างรุนแรง ส่วนร้อยละ 4.6 ระบุว่าเป็นการกระทำที่ไม่รุนแรง
เฉิน เหลียนฟาง นักวิเคราะห์แห่งบริษัทBeijing Orient Agribusiness Consultant ระบุว่า วิกฤตสินค้าจีนด้อยคุณภาพอาจทำให้ผู้บริโภคถึงขั้นเลิกซื้อสินค้าแบรนด์จีน และเมื่อถึงเวลานั้นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากเหตุการณ์ครั้งนี้ได้แก่ กลุ่มบรรษัทข้ามชาติ ที่จะเข้ามาแบ่งชิ้นเค้กในตลาดนมจีน ซึ่งเฉินระบุว่าสินค้านมแบรนด์จีนอาจมียอดจำหน่ายลดลงไปจนถึงปลายปีนี้
อย่างไรก็ตาม ความผิดพลาดในการตรวจสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์นมที่ตรวจพบในหลายบริษัท ส่งผลให้ผู้บริโภคส่วนมากในขณะนี้ระมัดระวังอาหารแปรรูปมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอุตสาหกรรมนมของจีนอาจต้องใช้ระยะเวลาหลายปีในการกู้ภาพลักษณ์สินค้าและความเชื่อมั่นจากผู้บริโภคได้อีกครั้ง
ขณะที่ทางการจีนเปิดเผยตัวเลขเด็กที่ป่วยเนื่องจากดื่มนมที่มีสารปนเปื้อนเมลามีนในวันอังคาร(23 ก.ย.) ว่ามีจำนวน 13,000 คนที่ยังต้องรักษาในโรงพยาบาลเนื่องจากอาการนิ่วในไต โดย 104 คนในจำนวนดังกล่าวยังอยู่ในขีดอันตราย ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิตจำนวน 4 คน