จีนรับครั้งแรกเหตุตึกเรียนถล่มที่เสฉวน อาจเพราะรีบเร่ง-ใช้วัสดุก่อสร้างชั้นเลว

เอเจนซี – ผ่านมาเกือบ 4 เดือนแล้วนับจากเหตุการณ์ธรณีไหวครั้งใหญ่ในมณฑลเสฉวนของจีน ล่าสุดเมื่อวันพฤหัสบดี (4 ก.ย.) นักวิทยาศาสตร์จากภาครัฐยอมรับครั้งแรกว่า การรีบเร่งสร้างอาคารเรียนช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา น่าจะเป็นสาเหตุทำให้งานก่อสร้างเกิดบกพร่อง จนนำไปสู่การพังทลายของอาคารหลายแห่งและโศกนาฎกรรมที่เกิดขึ้น

หม่า จ้งจิน ประธานคณะกรรมการผู้เชี่ยวชาญแห่งรัฐกล่าวถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีนว่า วัตถุดิบการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานอาจเป็นสาเหตุให้โรงเรียนไม่ต่ำกว่า 1,000 แห่งพังทลายลงมา นับเป็นครั้งแรกที่ทางการจีนยอมรับว่า มาตรฐานการก่อสร้างอาคารที่ย่ำแย่อาจอยู่เบื้องหลังการเสียชีวิตของเด็กนักเรียนนับพันคน

หม่า นักธรณีวิทยาจีนให้สัมภาษณ์ในปักกิ่งว่า “ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจีนอยู่ในช่วงกำลังพัฒนาและเร่งรีบก่อสร้างอาคารเรียนหลายแห่ง ซึ่งก็อาจก่อให้เกิดปัญหาได้ อย่างเช่น โครงสร้างอาคารเรียนอาจไม่เหมาะสมพอ วัตถุดิบในการก่อสร้างอาจไม่แข็งแรงพอ”

ด้านผู้เชี่ยวชาญทางวิศวกรรมและการก่อสร้างซึ่งรัฐบาลส่งไปยังพื้นที่ประสบภัยเพื่อศึกษาความเสียหายดังกล่าวยังตั้งคำถามเกี่ยวกับการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน รวมไปถึงขาดการวางผังเมืองและหลักเกณฑ์ว่าด้วยการก่อสร้างที่มีประสิทธิภาพ

ดูเหมือนว่าในบริเวณพื้นที่ประสบภัยจะมีแต่อาคารเรียนเท่านั้นที่พังทลายลงมาทั้งหมด ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแสดงความคิดเห็นว่า ปัญหาของจีนก็เหมือนกับปัญหาของประเทศอื่นๆ ทั่วโลก นั่นคือ ไม่มีข้อผูกมัดในการควบคุมความปลอดภัยสำหรับโรงเรียน

โดยห้องเรียนขนาดใหญ่หลายแห่งมักใช้เสาที่ไม่ทนทานต่อแรงสั่นสะเทือนของแผ่นดินไหว อีกทั้งห้องเรียนขนาดใหญ่ยังมักเป็นปัญหา เนื่องจากปริมาณนักเรียนที่มากระจุกตัวกันเป็นจำนวนมากจะทำให้เป็นอุปสรรคต่อการอพยพคนออกจากสถานที่หากเกิดเหตุฉุกเฉิน

ตัวอย่างการก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐานก็ได้แก่ อาคารแห่งหนึ่งในอำเภอผิงอู่ ที่สร้างอยู่ใกล้แม่น้ำ มีแนวโน้มที่จะเจอปัญหาดินทรุดตัวและทรายไหล รวมทั้งอาคาร 15 ชั้นอีกแห่งหนึ่ง สร้างขึ้นโดยไม่มีเสาเข็ม ผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งกล่าวเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ทั้งนี้เหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 12 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นภัยธรรมชาติที่รุนแรงที่สุดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตราว 70,000 ราย หายสาบสูญอีก 18,000 ราย โดยสือ เพ่ยจวิน รองประธานคณะผู้เชี่ยวชาญกล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (4 ก.ย.) ว่า โอกาสที่ผู้สูญหายยังมีชีวิตอยู่นับว่าน้อยลงเรื่อยๆ

“เพราะนับจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนั้นกินระยะเวลาร่วม 3 เดือนแล้ว ความหวังที่ว่าผู้หายสาบสูญจะยังรอดชีวิตอยู่นั้นนับว่าน้อยมาก” สือกล่าว พร้อมเสริมว่า ขณะนี้ยังไม่มีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตที่เป็นเด็กนักเรียนแน่ชัด ขณะที่ความเสียหายโดยตรงต่อเศรษฐกิจและทรัพย์สินจากเหตุแผ่นดินไหวนั้นคิดเป็นตัวเลขราว 123,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งราว 90% เป็นของมณฑลเสฉวน