xs
xsm
sm
md
lg

“ตลาดรัสเซีย” สวรรค์นักชอปปิ้งต่างชาติในปักกิ่ง?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ซิ่วสุ่ยเจีย หรือที่คนไทยเรียกว่าตลาดรัสเซีย
โดย ยุทธชัย อนันตศักรานนท์

“ซิ่วสุ่ยเจีย” หรือที่คนไทยรู้จักกันในนามของ “ตลาดรัสเซีย” อันเป็นแหล่งสินค้าเลียนแบบแบรนด์เนมต่างๆมากมาย อาทิกุชชี่ พราด้า ดีแอนด์จี หรืออย่างรองเท้ากีฬาชื่อดังไนกี้ อาดิดาสและแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ จนหลายคนที่บอกว่ามาเมืองจีนจะต้องมาหาซื้อของเลียนแบบจากที่นี่ และถือว่าที่นี่เป็นสวรรค์ของนักชอปปิ้งโดยเฉพาะสำหรับนักชอปปิ้งชาวต่างชาติที่มาเที่ยวปักกิ่ง

‘ซิ่วสุ่ยเจีย’ เดิมเป็นตลาดกลางแจ้งเปิดขึ้นเมื่อปี 1985 และเป็นที่รู้จักดีของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ต้องการหาซื้อสินค้าแบรนด์เนมของโลกในราคาย่อมเยา ต่อมาทางการได้สั่งปิดตลาดเดิม และให้ย้ายไปยังอาคารหลังใหม่ที่อยู่ในละแวกเดียวกัน ด้วยเหตุผลเรื่องความปลอดภัยจนกลายเป็นอีกรูปแบบของตลาดติดแอร์ที่มีชาวต่างชาติมาอุดหนุนกันมากมาย ทว่าเมื่อปีที่ผ่านมาก็มีข่าวว่า ทาง “ซิ่วสุ่ยเจีย” ต้องการที่จะจัดการกับสินค้าเลียนแบบให้หมดไป และผลักดันสินค้าผ้าไหมให้เป็นเอกลักษณ์ให้โดดเด่นขึ้น จนถึงกับทางตลาดได้นำเงินทุนถึง 30 ล้านหยวนมาชดเชยให้กับเจ้าของร้านหลายแห่งเพื่อจะโละสินค้าเลียนแบบออกไปเพื่อปรับปรุงภาพลักษณ์ใหม่

และแล้วเมื่อฤดูกาลแห่งโอลิมปิกปักกิ่งได้เริ่มขึ้น ทีมงานผู้จัดการออนไลน์จึงได้เดินทางมาเพื่อสำรวจความเปลี่ยนแปลงของตลาดชื่อดังแห่งนี้ ซึ่งภาพที่พบเห็นตั้งแต่เข้าไปก้าวแรกก็คือมีสินค้าเลียนแบบวางอยู่เต็มไปหมดไม่ว่าจะมองหรือเดินไปทางไหน โดยหน้าร้านแทบทุกร้านจะมีพนักงานที่คอยร้องตะโกนเป็นภาษาต่างๆเพื่อเรียกลูกค้า

กลยุทธ์การขาย

ในขณะที่เดินผ่านไปผ่านมาเราจะเห็นหลายร้านเลือกที่จะจ้างพนักงานหน้าตาจิ้มลิ้มน่ารัก มาเป็นคนช่วยเรียกลูกค้าเข้าร้าน บางร้านก็จะให้พนักงานเลือกหยิบสินค้าที่ดูดีมาถือยื่นให้คนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้เห็น บางร้านใช้วิธีออดอ้อนเช่น “ซื้อกระเป๋าให้ตัวเองหรือฝากแฟนสักใบสิคะ” หรือที่หนักหน่อยก็คือดึงแขนเข้ามา หรือเอาสินค้ามายัดใส่ในมือของลูกค้าเลยก็มี

หลังจากที่ได้ลูกค้าเข้าร้านแล้ว ต่อไปก็จะเป็นสงครามราคา ซึ่งถือว่าเป็นการวัดความสามารถกับความอดทนระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขาย อย่างเช่นเมื่อทีมงานเดินไปหยิบกระเป๋ากุชชี่ขึ้นมาใบหนึ่งแล้วถามว่าราคาเท่าไหร่ ก็ได้ยินพนักงานตอบมาว่า 400 หยวน ซึ่งก็ต้องรีบคูณด้วย 5 ในใจก็ถึงกับตกใจว่าราคาถึง 2,000 บาท จึงได้ย้อนถามกลับไปว่า “ของจริงหรือเปล่า?” คำตอบที่ออกจากพนักงานก็คือ “ของจริง”
เนื่องจากเคยรู้มาว่าของในนี้เป็นของเลียนแบบค่อนข้างมาก จึงทดลองต่อราคาออกไปเล่นๆที่ “70 หยวน” แน่นอนว่าคำตอบคือไม่ได้ แต่ก็ไม่ถึงกับโดนไล่เพราะพนักงานจะพยายามขอให้เพิ่มราคาอีกหน่อย ก็ต่อไล่ราคากันไปตามระเบียบ จนกระทั่งพนักงานยอมลงให้ถึง 100 หยวนแล้วไม่ยอมลงให้อีก จึงตัดสินใจว่ายังไม่ซื้อจะลองเดินไปดูร้านต่อไป

เมื่อลองพยายามเดินไปหาของจริงที่เป็นแบรนด์ของจีนที่พอมีอยู่ดูบ้าง ก็พบกระเป๋าสะพายข้างใบกระทัดรัดอีกใบหนึ่งที่แค่เดินไปมอง พนักงานก็รีบหยิบออกมาแล้วยื่นให้ทันทีพร้อมคำโฆษณายาหอมว่า “แหม เข้าใจเลือกนะ กระเป๋าใบนี้คุณภาพดีมาก” ถึงแม้จะพยายามบอกว่าดูเฉยๆไม่ได้สนใจ แต่ก็จะถูกตื้อว่าให้ลองเสนอราคาดู

เมื่อลองให้พนักงานบอกราคาปรากฏว่าเริ่มต้นที่ 300 หยวนซึ่งถือว่าแพงมาก จึงเดินออกจากร้านไปโดยบอกว่าไม่ได้สนใจ แต่นึกไม่ถึงว่าเพิ่งเดินออกมาได้ 3 ก้าวก็มีเสียงตวาดจากพนักงานสาวดังมาว่า “เฮ้!! จะไปไหน กลับมานี่ มาคุยราคากันก่อน” เมื่อเดินกลับไปก็จะถูกคะยั้นคะยอให้ต่อรองราคาอีกรอบ พอทดลองต่อราคาไปที่ 70 หยวนแล้วไม่ได้ ก็เลยเดินออกจากร้านอีกครั้ง แล้วก็พบกับเหตุการณ์แบบเดิม จนกระทั่งสุดท้ายจบลงด้วยการเสียเงินไป 90 หยวน

สวรรค์ของนักชอปปิ้ง?

ซิ่วสุ่ยเจียหรือตลาดรัสเซียนี้อาจจะเป็นสวรรค์ของนักชอปปิ้งหลายคน เพราะมีสินค้าให้เลือกหลากหลายไม่ว่าจะเป็นของจริงแบรนด์จีนหรือของเลียนแบรนด์ดัง ทั้งกระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า หมวก นาฬิกาไปจนถึงสินค้าที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมจีนอย่างชุดชงชา หน้ากากอุปรากรจีน ภาพวาดพู่กัน เรื่อยไปจนถึงเครื่องประดับ มุก ผ้าไหม มีแม้กระทั่งร้านขายยาจีนอยู่ในนั้น อีกทั้งพนักงานในนี้นอกจากพูดภาษาจีนแล้ว หลายคนยังสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ถึงขนาดเถียงกับฝรั่งได้เป็นเรื่องเป็นราว แถมบางคนยังพูดภาษารัสเซียได้อีกต่างหาก ส่วนภาษาไทยส่วนใหญ่ก็จะได้แค่ไม่กี่คำอย่าง “สวัสดี” “ขอบคุณ”

หรือแม้แต่ในแหล่งอื่นในปักกิ่งก็ยังมีสถานที่ให้เลือกหาของเลียนแบบได้ อย่างเช่นห้างหย่าซิ่ว หรือเรียกกันในนามว่า Ya Show Market ที่ตลอดทั้งตึกก็ยังมีสินค้าเลียนแบบหลากหลายแบรนด์ทั้งอาดิดาส ทั้งที่มีตึกใหญ่อาดิดาสจำหน่ายสินค้าอยู่ด้านข้างไกลไม่ถึง 200 เมตร หรือแบรนด์อื่นๆอย่าง Diesel ดีแอนด์จี และอีกมากมายหลายแบรนด์ไม่แพ้ตลาดรัสเซีย มีแม้กระทั่งเสื้อ หรือพวงกุญแจโอลิมปิกที่ขายกันหน้าห้าง โดยจะมาในรูปแบบของคนที่ถือเสื้อตัวหนึ่งเดินเข้ามาเสนอราคา หากต้องการจำนวนมากก็อาจจะพาไปดูของที่ตรอกใกล้ๆ หรืออาจจะขนเป็นถุงมาให้เลือกในมุมหนึ่งใกล้ๆตัวอาคาร โดยสามารถซื้อเสื้อโอลิมปิกปักกิ่งที่ของแท้ราคาอยู่ที่ 96 หยวนได้ในราคาเพียง 14 หยวนเท่านั้น จนหลายคนตั้งข้อสังเกตว่าแม้จีนจะมีมาตรการที่เข้มงวดขึ้นในช่วงโอลิมปิก แต่สถานที่หลายแห่งกลับยังดูไม่ต่างไปจากเดิมสักเท่าไหร่นัก

แต่สิ่งหนึ่งที่ต้องทำใจก่อนมาก็คือเรื่องของการต่อราคา เพราะแทบจะทุกร้านจะบอกผ่าน และเป็นการบอกผ่านจำนวนมาก ดังนั้นจะต้องดูสินค้าให้เป็นแล้วตั้งราคาในใจก่อนว่าควรจะอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะการต่อราคาให้ลงมาอยู่ในตัวเลขที่เหมาะสมจะให้ความรู้สึกเหมือนผ่านการชิงไหวชิงพริบกันรอบใหญ่ และเปลืองพลังกับการต่อรองไม่น้อย รวมไปถึงหากต่อแล้วสุดท้ายไม่ได้ราคาที่ต้องการหรือไม่ซื้อก็จะมีการวิ่งไล่ตาม การตะโกนด่า หรือแม้แต่กระชากเสื้อให้กลับมาซื้อกันอยู่บ่อยๆ

ที่สำคัญคือ หลังจากได้ทดลองดูหลายครั้ง ราคาที่ต่อรองได้จริงๆอาจจะเรียกว่าเป็นราคาพอประมาณสำหรับบางชาติที่มีค่าครองชีพสูง แต่สำหรับอีกหลายๆประเทศที่ไม่ได้มีรายได้มากนัก ราคาเหล่านี้ก็ยังจัดว่าแพงระดับหนึ่งอยู่ดี นี่ยังไม่รวมว่าถ้าต่อไม่เก่งก็จะโดน “ฟันราคา” เอาได้ง่ายๆ

เมื่อทดลองสอบถามถึงเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ กับคนที่คอยดูแลความเรียบร้อยในตลาดดังกล่าวว่าเหตุใดจึงมีการตั้งราคาสินค้าแบบบอกผ่านมากขนาดนี้ และราคาที่ต่อรองได้ในนี้ถ้าเทียบกับสินค้าทั่วไปแล้วเป็นอย่างไร? คำตอบที่ได้ก็คือ “ไม่ทราบ เพราะในนี้เป็นตลาดเสรี ราคาอยู่ที่ความพอใจของผู้ซื้อและผู้ขาย”

ดังนั้น คำตอบนี้ก็น่าจะเป็นคำถามสำหรับผู้ที่คิดจะมาเยือน “ตลาดรัสเซีย” ในปักกิ่งแห่งนี้เช่นกันว่ามีความต้องการสินค้าต่างๆเหล่านี้หรือไม่ และที่สำคัญคืออยากจะมาท้าทายความสามารถในการต่อราคาเพื่อที่จะจับจ่ายสินค้าในนี้มากน้อยแค่ไหน??
สารพัดกระเป๋าแบรนด์ดังของโลก
มีทั้งภาพวาด พู่กัน และอีกหลากหลายสินค้าที่เป็นกลิ่นอายวัฒนธรรมจีน
ชั้น 3 มีการแสดงให้เห็นถึงขั้นตอนการทำไหม
ผ้าไหมหลายแบบที่วางจำหน่าย
สินค้าเครื่องกีฬา หรือเครื่องเล่นเอ็มพีสามก็มี
มุก กับเครื่องประดับแบบต่างๆ
กระเป๋าสะพายแบรนด์จีน
นักข่าวทีวีชาวต่างชาติที่มาทำข่าวที่ซิ่วสุ่ยเจีย
กำลังโหลดความคิดเห็น